คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3228/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727 บัญญัติให้ผู้มีส่วนได้เสียร้องขอให้ศาลเพิกถอนผู้จัดการมรดกไว้ 2 ประการคือผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุอย่างอื่นที่สมควร ดังนั้น หากจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกผิดสัญญาที่ทำไว้กับโจทก์ในฐานะทายาทของผู้ตาย ก็เป็นเหตุที่โจทก์จะร้องขอต่อศาลตามมาตราดังกล่าวได้ แต่การที่ศาลจะมีคำสั่งให้เพิกถอนตามคำร้องขอของโจทก์หรือไม่ย่อมอยู่ในอำนาจของศาลที่จะพิจารณาว่ามีเหตุสมควรหรือไม่ หาใช่เมื่อจำเลยผิดสัญญาแล้วศาลจะต้องสั่งเพิกถอนจำเลยออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกเสมอไปไม่.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์จำเลยทั้งสามและนายบุญทวี ไวทยานุวัตติเป็นทายาทและผู้จัดการมรดกของร้อยเอกหลวงไวรณการ ผู้จัดการมรดกได้ฟ้องร้องกันเป็นคดีแพ่งและคดีอาญา ต่อมาได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันเพื่อระงับข้อพิพาททั้งหมด โดยให้นำเงินสดในบัญชีเงินฝากกองมรดกมาแบ่งปันกัน ให้ใส่ชื่อผู้จัดการมรดกทั้งหมดในโฉนดที่ดิน ทำบัญชีทรัพย์มรดกที่เป็นสิงหาริมทรัพย์แล้วประมูลระหว่างทายาท ให้เพิ่มชื่อโจทก์เป็นผู้ร่วมลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเงินของกองมรดกในธนาคาร และให้โจทก์กับจำเลยทั้งสามถอนฟ้องคดีอาญากัน ฝ่ายใดผิดสัญญาข้อหนึ่งข้อใดยอมให้อีกฝ่ายหนึ่งยกเป็นเหตุเพิกถอนการเป็นผู้จัดการมรดกได้ ต่อมาจำเลยทั้งสามไม่ปฏิบัติตามสัญญาและขัดขวางการจัดการมรดกของโจทก์ ทั้งทุจริตยักยอกเงินของกองมรดก ขอให้ถอนจำเลยทั้งสามออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก แต่งตั้งโจทก์กับพวกเป็นผู้จัดการมรดก ถอนชื่อจำเลยทั้งสามในฐานะผู้จัดการมรดกออกจากโฉนดที่ดินกับให้มอบโฉนดดังกล่าวแก่โจทก์
จำเลยที่ 1 และที่ 3 ให้การว่า จำเลยที่ 1 ที่ 3 ได้จัดการมรดไปตามกฎหมาย โจทก์ไม่เหมาะสมที่จะเป็นผู้จัดการมรดก โจทก์กับนายบุญทวีร่วมกันลอบทำสัญญาจะขายที่ดินของกองมรดกในราคาต่ำกว่าความจริง ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ให้การว่า จำเลยที่ 2 มิได้กระทำผิดสัญญาประนีประนอมยอมความหรือข้อตกลงร่วมกันจัดการมรดก ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์ฎีกาว่า สัญญาที่ผู้จัดการมรดกทำกันไว้เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2525 (เอกสารท้ายฟ้องหมายเลข 2)ไม่ขัดต่อกฎหมายแต่อย่างใด เมื่อจำเลยที่ 1 และที่ 3 ผิดสัญญาจึงต้องออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกตามสัญญานั้น เห็นว่าตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727 บัญญัติให้ผู้มีส่วนได้เสียร้องขอให้ศาลเพิกถอนผู้จัดการมรดกไว้ 2 ประการคือ ผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำตามหน้าที่ หรือเพราะเหตุอย่างอื่นที่สมควร ดังนั้น หากจำเลยที่ 1 และที่ 3 ผิดสัญญาดังโจทก์อ้างจริง ก็เป็นเหตุที่โจทก์จะร้องขอต่อศาลตามความในมาตราดังกล่าวได้ แต่การที่จะมีคำสั่งให้เพิกถอนตามคำร้องขอของโจทก์หรือไม่ย่อมอยู่ในอำนาจของศาลที่จะพิจารณาว่ามีเหตุที่สมควรหรือไม่ ทั้งนี้เนื่องจากการเพิกถอนจำเลยออกจากการเป็นผู้จัดการมรดก หาได้มีผลเฉพาะต่อโจทก์จำเลยไม่แต่ยังมีผลกระทบถึงผลประโยชน์ของบรรดาทายาทอื่นซึ่งมิได้เป็นคู่ควาในคดีนี้ด้วย หาใช่เมื่อจำเลยที่ 1 และที่ 3 ผิดสัญญาที่ทำกับโจทก์แล้วศาลจะต้องสั่งเพิกถอนจำเลยดังกล่าวออกจากการเป็นผู้จัดการมรดกเสมอไปไม่
พิพากษายืน.

Share