คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ผู้เช่าซื้อเอาประกันภัยรถยนต์ที่เช่าซื้อโดยระบุผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้รับประโยชน์รถยนต์เกิดอุบัติเหตุผู้ให้เช่าซื้อแจ้งให้ผู้รับประกันภัยใช้ค่าเสียหายตามกรมธรรม์ประกันภัยเป็นการถือเอาประโยชน์ตามสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอกและฟ้องคดีเองได้ ไม่ใช่ฟ้องแทนผู้เช่าซื้อ

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยซึ่งเป็นบริษัทรับประกันภัยใช้เงินตามสัญญาประกันภัยแก่โจทก์ 106,000 บาท กับดอกเบี้ย ตั้งแต่วันฟ้องกับส่งรถคืนโจทก์ในสภาพปัจจุบัน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “จำเลยฎีกาในประเด็นข้อเดียวว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดนิยมและบุตรเป็นผู้เอาประกันรถยนต์คันหมายเลขทะเบียนกท.อ. 0379 กับจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดต่อห้างหุ้นส่วนจำกัดนิยมและบุตรฟ้องโจทก์เป็นการฟ้องเรียกค่าเสียหายแทนห้างหุ้นส่วนจำกัดนิยมและบุตรโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ข้อเท็จจริงได้ความว่าโจทก์เป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ดังกล่าวในประเทศไทย ห้างหุ้นส่วนจำกัดนิยมและบุตรเช่าซื้อรถยนต์ไปจากโจทก์ และได้เอาประกันรถยนต์ที่เช่าซื้อไปกับจำเลยโดยระบุให้โจทก์เป็นผู้รับประโยชน์ เมื่อรถยนต์ที่เอาประกันเกิดอุบัติเหตุได้รับความเสียหายในระหว่างอายุประกัน โจทก์ได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายตามกรมธรรม์ประกันภัย ศาลฎีกาเห็นว่า สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอก สิทธิของบุคคลภายนอกย่อมเกิดมีขึ้นตั้งแต่เวลาที่แสดงเจตนาแก่ลูกหนี้ว่าจะถือเอาประโยชน์จากสัญญานั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 374 เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้มีหนังสือแจ้งให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายตามกรมธรรม์ประกันภัย สิทธิของโจทก์ตามกรมธรรม์ประกันภัยย่อมเกิดมีขึ้นตั้งแต่บัดนั้น โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายตามกรมธรรม์ประกันภัยได้ หาใช่ว่าโจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายแทนห้างหุ้นส่วนจำกัดนิยมและบุตรดังที่จำเลยฎีกาไม่”

พิพากษายืน

Share