แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
สัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างจำเลยที่ 2 ลูกจ้างจำเลยที่ 1 กับ ต. คนขับรถของโจทก์มีใจความว่า จำเลยที่ 2 ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้ผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 กับ ต. ลงชื่อไว้ในฐานะคู่กรณีโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่แท้จริง ไม่ได้ลงชื่อ และมิได้มอบหมายให้ ต. เป็นตัวแทน โดยมีหลักฐานเป็นหนังสือเพื่อทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยที่ 2 จึงไม่มีผลผูกพันโจทก์ โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ได้
ย่อยาว
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าเสียหาย 18,050 บาทพร้อมดอกเบี้ย ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยที่ 1 ฎีกา ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาเฉพาะปัญหาข้อกฎหมายในข้อที่ว่าสัญญาประนีประนอมยอมความตามเอกสารหมาย จ.3 ระหว่างจำเลยที่ 2 ลูกจ้างจำเลยที่ 1 กับนายตึ้งหรืออาตึ่งคนขับรถของโจทก์ มีผลให้โจทก์หมดสิทธิฟ้องจำเลยที่ 1 ให้ร่วมรับผิดในผลแห่งละเมิดซึ่งจำเลยที่ 2 ก่อให้เกิดขึ้นหรือไม่
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “เอกสารหมาย จ.3 มีใจความสำคัญว่าจำเลยที่ 2 ยินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดให้ผู้เสียหาย จำเลยที่ 2 กับนายตึ้งหรืออาตึ่งลงชื่อไว้ในฐานะคู่กรณี โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายที่แท้จริงไม่ได้ลงชื่อและมิได้มอบหมายให้นายตึ้งหรืออาตึ่งเป็นตัวแทนโดยมีหลักฐานเป็นหนังสือเพื่อทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยที่ 2 ฉะนั้นเอกสารหมาย จ.3จึงมีผลผูกพันเฉพาะจำเลยที่ 2 กับนายตึ้งหรืออาตึ่งเท่านั้น ไม่มีผลผูกพันโจทก์โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 1 ได้”
พิพากษายืน