คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 317/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกู้เงิน และออกเช็คไว้ให้แทนสัญญากู้ ทั้งผู้ทรงเช็คและจำเลยต่างไม่ได้มีเจตนาจะให้ใช้เช็คนั้นเป็นการชำระหนี้ จำเลยไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๐๕ จำเลยได้ออกเช็คธนาคารแห่งกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาปทุมวัน ลงวันสั่งจ่ายวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๐๕ สั่งจ่ายเงิน ๒๐,๐๐๐ บาทเพื่อเป็นการชำระหนี้โจทก์ ต่อมาวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๐๕ โจทก์นำเช็คดังกล่าวไปเข้าบัญชีเงินฝากของโจทก์ต่อธนาคารนครหลวงไทย จำกัด สาขาสี่พระยา เพื่อเรียกเงินจำนวนตามเช็คนั้น ธนาคารแห่งกรุงศรีอยุธยา จำกัด สาขาปทุมวัน ปฏิเสธการจ่ายเงินโดยแจ้งว่าเงินในบัญชีของจำเลยไม่พอจ่าย โจทก์จึงแจ้งให้จำเลยจัดการชำระเงินตามเช็คนั้น จำเลยเพิกเฉยไม่ชำระให้โจทก์ จึงเป็นการแสดงว่าจำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น
จำเลยให้การปฏิเสธว่าไม่ได้สั่งจ่ายเช็คดังกล่าวชำระหนี้ให้แก่โจทก์ โจทก์สมคบกับนายโกอันหรืออนันต์ หุตังคบดี เพื่อจะยักยอกทะเบียนรถยนต์ของจำเลยกับคำร้องขอโอนรถยนต์ตามทะเบียนซึ่งจำเลยได้ลงชื่อไว้และได้มอบให้นายอนันต์พร้อมกับเช็คตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นเห็นว่า จำเลยมิได้ออกเช็คให้แก่โจทก์ด้วยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินจำเลยไม่มีความผิด พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น โดยพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.๒๔๙๗ มาตรา ๓ ให้จำคุก ๓ เดือน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีนี้ข้อเท็จจริงฟังได้อย่างจำเลยต่อสู้ คือ เป็นเรื่องที่นายอนันต์ให้จำเลยกู้เงิน โดยจำเลยออกเช็คไว้ให้แทนสัญญากู้ ทั้งนายอนันต์ก็ได้รับชำระดอกเบี้ยไปจากจำเลย นายอนันต์ซึ่งเป็นผู้ทรงเช็คและจำเลยต่างไม่ได้มีเจตนาจะให้ใช้เช็คนั้นเป็นการชำระหนี้ จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ โดยให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share