แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ตายถูกยิงที่หน้าอกและแขนยังไม่ตายทันที ร้องโอยๆและว่าปวดแขนเหลือเกิน และได้พูดต่อหน้าพยานโดยระบุชื่อจำเลยว่าเป็นคนทำร้าย ขอให้ตั้งไว้อย่าให้นอนในตอนหามลงเรือ และพูดว่าตายแน่ คำของผู้ตายที่ระบุว่าจำเลยเป็นคนทำร้ายนี้รับฟังได้
ย่อยาว
คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานร่วมกันฆ่านายจ่าย ทรัพย์สอน โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๙, ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยที่ ๒ ได้ฆ่าผู้ตายจริงตามฟ้อง แต่ฟังไม่ได้ว่าได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ให้ลงโทษจำเลยที่ ๒ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๘๘ ส่วนพยานหลักฐานโจทก์เกี่ยวกับจำเลยที่ ๑ ตกอยู่ในข่ายสงสัยให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า คืนเกิดเหตุได้มีคนร้าย ๓ คนเข้ามาจ่อยิงนายจ่ายผู้ตาย ๒ นัดที่ที่อยู่ของผู้ตายซึ่งเป็นโรง ลักษณะคล้ายโรงนามีตะเกียงจุดอยู่ ๑ ดวง ผู้ตายมีแผลถูกยิงที่แขนและหน้าอก อาการสาหัสโจทก์มีประจักษ์พยานยืนยันว่าจำเลยที่ ๒ เป็นคนร้ายคนหนึ่งเพราะเคยรู้จักกันผู้ตายเองก็จำจำเลยที่ ๒ ได้ ขณะที่ผู้ตายยังไม่ตาย ได้ร้องว่า ปวดแขนเหลือเกินและได้พูดต่อหน้าพยานระบุชื่อจำเลยที่ ๒ ว่าเป็นคนร้าย ตอนหามลงเรือผู้ตายร้องโอย ๆ และขอให้ตั้งไว้อย่านอนและพูดว่า ตายแน่ คำของผู้ตายในกรณีนี้จึงรับฟังเป็นพยานได้ พยานหลักฐานจำเลยไม่มีน้ำหนัก พิพากษายืน