แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
คำแปลเอกสารภาษาต่างประเทศที่โจทก์รับรองว่าถูกต้องและอ้างส่งต่อศาลนั้น เมื่อไม่มีการโต้แย้งหรือขอแก้ไขก่อนเสร็จสำนวน ย่อมต้องถือเป็นยุติ ศาลจะรับรู้ต้นฉบับภาษาต่างประเทศว่ามีข้อความอย่างไร ไม่ได้ กรณีต่างกับสำเนาเอกสารที่มีต้นฉบับ (เป็นภาษาไทย) ในสำนวนซึ่งศาลย่อมตรวจดูต้นฉบับได้
ในเรื่องฟ้องเรียกค่าเสียหายนั้น แม้จำเลยจะไม่ได้นำสืบโต้แย้งจำนวนค่าเสียหายก็เป็หน้าที่ของโจทก์ผู้กล่าวอ้างจะต้องนำสืบโดยตลอด จำเลยไม่ต้องยกเป็นประเด็นขึ้นต่อสู้ในเรื่องจำนวนค่าเสียหายมากน้อยเพียงใด
พยานบุคคลให้การเรื่องจำนวนค่าเสียหายตรงตามที่โจทก์ฟ้อง แต่คำแปลเอกสารคิดได้เป็นจำนวนน้อยกว่า ศาลถือว่ากรณีเป็นที่สงสัย ยกประโยชน์ให้แก่จำเลยผู้ต้องเสียในมูลหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 11
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าโจทก์ทำสัญญาซื้อไม้ยางจากจำเลย กำหนดให้ส่งไม้ตามกำหนดในสัญญา แต่จำเลยไม่ส่งให้ตามกำหนดเป็นเหตุให้โจทก์จำต้องซื้อไม้จากผู้อื่นแพงไป ๑๗,๒๕๐ บาท จึงฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินจำนวนนี้
จำเลยให้การว่าโจทก์เองเป็นฝ่ายผิดสัญญา ไม่มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยค่าเสียหายไม่ควรจะคิดเท่าที่โจทก์ฟ้อง
ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ฟังข้อเท็จจริงเช่นเดียวกันว่า จำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา พิพากษาให้จำเลยชำระเงิน ๑๗,๒๕๐ บาท
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยผิดสัญญาจริง แต่เห็นว่าตามคำแปลเอกสารที่โจทก์ส่งศาลนั้น มีตัวเลขราคาไม้ที่ซื้อคำนวณได้ว่ามีราคาแพงขึ้นเพียง ๑๑,๒๕๐ บาท คำแปลเอกสารภาษาต่างประเทศที่โจทก์รับรองว่าถูกต้องและอ้างส่งเป็นพยานต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๔๖ นั้น เมื่อไม่มีการโต้แย้งหรือขอแก้ไขประการใดก่อนเสร็จสำนวน ย่อมต้องถือยุติเป็นพยานหลักฐานของโจทก์ในสำนวนความ ศาลจะรับรู้ต้นฉบับภาษาต่างประเทศว่ามีข้อความอย่างไรไม่ได้ ฉะนั้น ในเรื่องนี้ ถึงแม้พยานบุคคลของโจทก์จะให้การถึงจำนวนค่าเสียหายตรงตามที่โจทก์ฟ้อง แต่ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีต้องบังคับตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๑ คือ ในกรณีที่มีข้อสงสัย ให้ตีความในทางที่เป็นคุณแก่ฝ่ายซึ่งจะเป็นผู้ต้องเสียในมูลหนี้ แม้ว่าจำเลยจะมิได้นำสืบโต้แย้งราคาไม้ไว้ ศาลฎีกาก็เห็นว่า ค่าเสียหายจะมีมากน้อยเพียงใดนั้น เป็นหน้าที่ของโจทก์ผู้กล่าวอ้างจะต้องนำสืบโดยตลอด จำเลยไม่จำต้องยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในเรื่องความมากน้อยแห่งค่าสินไหมทดแทน จึงพิพากษาแก้ ให้จำเลยใช้ค่าเสียหายเพียง ๑๑,๒๕๐ บาท