คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3129/2538

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำฟ้องของโจทก์อ้างว่าจำเลยอาศัยและปลูกอาคารอยู่ในที่ดินของโจทก์โจทก์ไม่ต้องการให้จำเลยอยู่อาศัยอีกต่อไปและให้จำเลยรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างพร้อมขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่ดินของโจทก์ จำเลยยื่นคำให้การและฟ้องแย้งว่าจำเลยครอบครองที่ดินพิพาทมาโดยเปิดเผยไม่น้อยกว่า30ปีก่อนที่กรมธนารักษ์จะมีอำนาจหน้าที่ดูแลจำเลยจึงไม่ได้บุกรุกประกาศที่จังหวัดตากให้มีการประมูลปลูกสร้างอาคารในที่ดินพิพาทนั้นจังหวัดตากมีเจตนาไม่สุจริตเพราะขัดกับมติที่ประชุมของคณะกรรมการที่ราชพัสดุที่ไม่ให้ขับไล่ผู้บุกรุกและการกำหนดเงื่อนไขและเวลาของผู้เข้าประมูลเป็นการตัดสิทธิจำเลยไม่ให้เป็นผู้เข้าประมูลการประมูลดังกล่าวเป็นการไม่ชอบขอให้ยกเลิกเพิกถอนการประมูลการก่อสร้างใหม่คำฟ้องแย้งที่จำเลยขอให้เพิกถอนการประมูลการก่อสร้างของจังหวัดตากจึงเป็นเรื่องอื่นซึ่งไม่เกี่ยวกับคำฟ้องเดิม

ย่อยาว

โจทก์ ฟ้อง ว่า โจทก์ เป็น เจ้าของ กรรมสิทธิ์ ที่ราชพัสดุ เนื้อที่ประมาณ 64 ตารางวา ถนน หลังโครงการ 1 ตำบลหนองหลวง อำเภอเมืองตาก จังหวัด ตาก เมื่อ วันที่ 7 ธันวาคม 2535 ได้ มี ประกาศ จังหวัด ตากเรื่อง การ ประมูล ก่อสร้าง อาคาร ใน ที่ดิน ราชพัสดุ ผล การ ประมูล ปรากฏว่านาย นิเวศน์ เป็น ผู้ได้รับ สิทธิ ปลูกสร้าง อาคาร ใน ที่ดิน ราชพัสดุ แปลง ดังกล่าว แต่ เนื่องจาก จำเลย ได้ ปลูกสร้าง อาคาร อาศัย อยู่ใน ที่ดิน ดังกล่าว ซึ่ง ตาม ประกาศ จังหวัด ตาก ข้อ 26 โจทก์ จะ ต้องดำเนินการ ให้ จำเลย ออก ไป จาก ที่ดิน ดังกล่าว พร้อม ด้วย บริวาร และรื้อถอน อาคาร ภายใน 60 วัน โจทก์ จึง บอกกล่าว ให้ จำเลย ทราบจำเลย เพิกเฉย เป็น การ ละเมิด ต่อ โจทก์ ขอให้ บังคับ จำเลย และ บริวารออกจาก ที่ดิน ราชพัสดุ แปลง หมายเลข ทะเบียน ที่ ตก.25 และ รื้อถอน อาคารสิ่งปลูกสร้าง ขนย้าย ทรัพย์สิน ออก ไป ด้วย ให้ จำเลย ใช้ ค่าเสียหายพร้อม ทั้ง ดอกเบี้ย ใน อัตรา ร้อยละ 7.5 ต่อ ปี ใน ต้นเงิน นับแต่ วันฟ้องไป จนกว่า จะ ชำระ เสร็จ และ ให้ ใช้ ค่าเสียหาย เดือน ละ 6,000 บาท นับแต่วันฟ้อง ไป จนกว่า จำเลย จะ รื้อถอน อาคาร พร้อม สิ่งปลูกสร้าง และ ขนย้ายทรัพย์สิน ออก ไป จาก ที่ดิน ของ โจทก์
จำเลย ให้การ และ ฟ้องแย้ง ว่า จำเลย ครอบครอง ที่ดินพิพาทโดย เปิดเผย เป็น เวลา ไม่ น้อยกว่า 30 ปี ก่อนหน้า ที่ กรมธนารักษ์ จะ มีอำนาจ หน้าที่ ใน การ ดูแล จำเลย จึง มิใช่ ผู้บุกรุก เอกสาร ท้ายฟ้องหมายเลข 3 เป็น ประกาศ ที่ มี เจตนา ไม่สุจริต เพราะ ขัด กับ มติที่ ประชุม ของ คณะกรรมการ ที่ราชพัสดุ ที่ ไม่ให้ ขับไล่ ผู้บุกรุกการ กำหนด เงื่อนไข และ เวลา ของ ผู้ เข้า ประมูล เป็น การ ตัด สิทธิ จำเลยอีก ทั้ง เป็น การ ประมูล ที่ดินพิพาท ราย เดียว เท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ ที่ดินแปลง อื่น ก็ มี ปัญหา โจทก์ ไม่เคย บอก ให้ จำเลย ออกจาก ที่ดินพิพาทโดย ที่ โจทก์ ยื่นฟ้อง ด้วย เหตุ ไม่ชอบ ดังกล่าว ทำให้ จำเลย ได้รับความเสียหาย จึง ขอ ถือเอา คำให้การ นี้ เป็น คำฟ้อง ของ จำเลยขอให้ ยกฟ้อง โจทก์ ให้ยก เลิก เพิกถอน การ ประมูล ก่อสร้าง อาคารใน ที่ดิน ราชพัสดุ ตาม หนังสือ ของ ศาลากลางจังหวัด ตาก ที่ ตก.0003/3904ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2536 เสีย และ ดำเนินการ เปิด ประมูล ใหม่โดย กำหนด เงื่อนไข ที่ เป็น ธรรม ไม่ ตัด สิทธิ ของ จำเลย
ศาลชั้นต้น มี คำสั่ง รับคำ ให้การ ส่วน ฟ้องแย้ง ทั้งหมด รวมทั้งคำให้การ ข้อ 9.2 ซึ่ง เป็น ส่วน หนึ่ง ของ ฟ้องแย้ง ไม่เกี่ยวกับ ฟ้องเดิมจึง ไม่รับ
จำเลย อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลย ฎีกา
ศาลฎีกา วินิจฉัย ว่า ที่ จำเลย ฟ้องแย้ง ขอให้ ยกเลิก เพิกถอนการ ประมูล การก่อสร้างอาคาร ใน ที่ดินพิพาท ตาม หนังสือ ของ จังหวัด ตากดังกล่าว และ ดำเนินการ เปิด ประมูล ใหม่ นั้น เป็น คน ละ เรื่อง กับ ที่โจทก์ ฟ้อง ขอให้ ขับไล่ จำเลย เนื่องจาก คำฟ้อง ของ โจทก์ อ้างว่า จำเลยอาศัย และ ปลูก อาคาร อยู่ ใน ที่ดิน ของ โจทก์ โจทก์ ไม่ต้อง การ ให้ จำเลยอยู่อาศัย อีก ต่อไป และ ให้ จำเลย รื้อถอน สิ่งปลูกสร้าง พร้อม ขนย้ายทรัพย์สิน และ บริวาร ออก ไป จาก ที่ดิน ของ โจทก์ และ ได้ บอกกล่าว ให้ จำเลยทราบ แล้ว จำเลย ไม่ปฏิบัติ ตาม ถือได้ว่า จำเลย อยู่ ใน ที่ดิน ของ โจทก์โดย ละเมิด ทำให้ โจทก์ ได้รับ ความเสียหาย ฉะนั้น คำฟ้อง แย้ง ที่ จำเลยขอให้ เพิกถอน การ ประมูล การ ก่อสร้าง ของ จังหวัด ตาก จึง เป็น เรื่อง อื่นซึ่ง ไม่เกี่ยวกับ คำฟ้อง เดิม ส่วน ประกาศ ของ จังหวัด ตาก ที่ จำเลยยกขึ้น เป็นเหตุ แห่ง ข้ออ้าง ใน คำฟ้อง แย้ง จะ ชอบ หรือไม่ อย่างไร เป็น สิทธิของ จำเลย ที่ ต้อง นำ ไป ฟ้อง เป็น คดี ใหม่ ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 พิพากษายืน ตามคำสั่งศาล ชั้นต้น ที่ ไม่รับฟ้อง แย้ง ชอบแล้ว ฎีกา จำเลย ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share