แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
จำเลยอ้างเหตุที่ขาดนัดว่า ป่วยเป็นโรคประสาท ไปพักรักษาตัวที่บ้านน้องชาย ไม่ทราบเรื่องทนายถอนตัวและศาลส่งหมายนัดวันสืบพยานรวมทั้งไม่สามารถยื่นคำขอพิจารณาใหม่ได้ทัน 15 วัน ด้วย ซึ่งถ้าได้ความจริงตามคำร้อง ก็จะถือว่าจำเลยจงใจขาดนัดพิจารณาไม่ได้ และการที่จำเลยยื่นคำร้องไม่ทันภายใน15 วัน นับแต่วันส่งคำบังคับก็ถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์นอกเหนือที่ไม่อาจจะบังคับได้ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของจำเลยโดยไม่ไต่สวนเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบ
ย่อยาว
จำเลยขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นสืบพยานโจทก์ฝ่ายเดียว แล้วพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำขอ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีมีปัญหาว่าสมควรจะต้องไต่สวนคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยหรือไม่ เห็นว่าในคำร้องของจำเลยค้างเหตุที่ขาดนัดก็เพราะว่า จำเลยป่วยเป็นโรคประสาท ต้องไปพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านน้องชายจำเลย ไม่ทราบเรื่องหมายศาลด้วย และไม่ทราบเรื่องการที่ศาลส่งหมายนัดวันสืบพยาน รวมทั้งไม่สามารถยื่นคำขอให้พิจารณาใหม่ได้ทันภายในกำหนด 15 วันด้วย ซึ่งถ้าได้ความจริงตามคำร้องขอจำเลยก็จะถือว่าจำเลยจงใจขาดนัดพิจารณาไม่ได้ และการที่จำเลยยื่นคำร้องไม่ทันภายในกำหนด 15 วันนับแต่วันส่งคำบังคับก็ถือได้ว่าเป็นพฤติการณ์นอกเหนือที่ไม่อาจจะบังคับได้ ความจริงจะเป็นดังคำร้องของจำเลยหรือไม่ สมควรที่ศาลจะต้องไต่สวนคำร้องของจำเลยเสียก่อน การที่ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องของจำเลยโดยไม่ไต่สวนเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาที่ไม่ชอบฎีกาของจำเลยในเรื่องนี้ฟังขึ้น
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนและสั่งคำร้องของจำเลยใหม่ตามรูปความ ค่าฤชาธรรมเนียมทั้งสามศาลในชั้นนี้ ให้ศาลชั้นต้นรวมสั่งเมื่อมีคำสั่งในเรื่องนี้ใหม่”