แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ซื้อหลักทรัพย์ตามคำสั่งของจำเลยโดยบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งเป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นตัวแทนบริษัทโจทก์ซื้อให้ โจทก์มิได้จัดให้มีตลาดหรือสถานที่อันเป็นศูนย์กลางการซื้อหรือขายหลักทรัพย์รวมทั้งบริการที่เกี่ยวกับกิจการดังกล่าวตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2517 จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามมาตรา 9 ของพระราชบัญญัติดังกล่าว สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยจึงชอบด้วยกฎหมาย โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกหนี้สินค่าซื้อหลักทรัพย์จากจำเลยได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ประกอบกิจการในการเป็นตัวแทนและนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ แต่โจทก์มิได้เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โจทก์จึงซื้อขายหลักทรัพย์ตามคำสั่งของลูกค้าผ่านทางบริษัทที่เป็นสมาชิก และโจทก์จะเป็นผู้ออกเงินทดรองรวมทั้งค่านายหน้าแทนลูกค้าไปก่อน จำเลยได้สั่งให้โจทก์เป็นตัวแทนซื้อหุ้นบริษัทสหยูเนียน จำกัด บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เฟิสท์ทรัสต์ จำกัด โดยโจทก์ได้ทดรองจ่ายเงินค่าหุ้นรวมทั้งค่านายหน้าไปหลายครั้งรวมเป็นเงิน ๕๓๑,๘๙๖.๘๒ บาท จึงขอให้จำเลยชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า โจทก์มิได้เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จึงไม่มีอำนาจซื้อขายหลักทรัพย์ จะติดต่อบริษัทหลักทรัพย์อื่นเป็นตัวแทนซื้อให้ก็ไม่ได้ การซื้อขายหลักทรัพย์เป็นโมฆะ โจทก์ไม่เคยส่งมอบหลักทรัพย์พิพาทให้แก่จำเลย เพราะโจทก์ไม่ได้ซื้อให้จำเลย จึงไม่มีสิทธิเรียกให้ชำระเงินแก่โจทก์ ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว เห็นว่าคดีไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ว่าโจทก์ได้จ่ายเงินทดรองซื้อหุ้นแทนจำเลย พิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะ โจทก์จึงไม่มีสิทธิอ้างสัญญานั้นฟ้องเรียกหนี้สินจากจำเลย ไม่ต้องวินิจฉัยประเด็นข้ออื่น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับคำพิพากษาศาลชั้นต้นในผล พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาว่าการกระทำของบริษัทโจทก์ในการเป็นตัวแทนและนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ตามฟ้องเป็นการประกอบกิจการตลาดหลักทรัพย์หรือกิจการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๑๗ หรือไม่ สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๑๓ โจทก์ไม่มีสิทธิอ้างสัญญานั้นฟ้องเรียกหนี้สินอันเกิดจากสัญญาดังกล่าวจากจำเลยตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์หรือไม่ โจทก์ฎีกาว่าโจทก์เป็นเพียงตัวแทนและนายหน้าที่จัดซื้อขายหลักทรัพย์ให้แก่จำเลยเท่านั้น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจหลักทรัพย์ โจทก์มิได้ประกอบกิจการตลาดหลักทรัพย์หรือกิจการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน การกระทำของโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมายไม่เป็นโมฆะนั้น พิเคราะห์แล้ว โจทก์โดยผู้ชำระบัญชีฟ้องคดีเพื่อรวบรวมสินทรัพย์และการชำระหนี้ของโจทก์ ได้บรรยายความเป็นไปของโจทก์มาแต่ต้น ลูกหนี้ทุกประเภทก็ได้บรรยายไว้ด้วยมีจำนวนหนี้ประมาณหนึ่งพันสองร้อยล้านบาท แต่มิได้ขอบังคับในคดีนี้ทั้งหมด สำหรับจำเลยนี้โจทก์ขอให้รับผิดชำระหนี้ในวงเงิน ๖ แสนกว่าบาทตามฟ้องข้อ ๔ ว่าจำเลยได้ตกลงให้โจทก์เป็นตัวแทนจัดการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์โดยยอมปฏิบัติตามวิธีและประเพณีในการเล่นหุ้นซึ่งถือปฏิบัติต่อกัน ทั้งนี้โดยให้โจทก์จัดการซื้อหลักทรัพย์โจทก์จัดการซื้อให้ได้ ฯลฯ วิธีจัดการของโจทก์นั้น โจทก์จะรับคำสั่งซื้อหรือสั่งขายของจำเลยแล้วติดต่อกับบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ให้จัดการซื้อขายหลักทรัพย์ตามที่ระบุไว้ตามคำสั่งของลูกค้าอีกทีหนึ่ง ซึ่งในกรณีของจำเลยนี้คือ หุ้นบริษัทสหยูเนียนจำกัด หุ้นบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์เฟิสท์ทรัสต์ จำกัด เห็นว่าโจทก์มิได้เป็นผู้ซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวด้วยตนเอง เพราะมิได้เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้ซื้อขายหลักทรัพย์พิพาทคือบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิก โดยสมาชิกจะทำการเป็นนายหน้าของบุคคลใด ๆ หรือเป็นตัวแทนของบริษัทหลักทรัพย์ซึ่งมิได้เป็นสมาชิกก็ได้ (โจทก์คดีนี้) ทั้งนี้ตามมาตรา ๒๐ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๑๗ โจทก์มิได้จัดให้มีตลาดหรือสถานที่อันเป็นศูนย์กลางการซื้อหรือขายหลักทรัพย์รวมทั้งบริการที่เกี่ยวกับกิจการดังกล่าวตามมาตรา ๓ จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามมาตรา ๙ แห่งพระราชบัญญัติตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๑๗ สัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลยคดีนี้ชอบด้วยกฎหมาย โจทก์มีสิทธิฟ้องเรียกหนี้สินรายพิพาทจากจำเลยได้ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์ด้วยเหตุนี้ และไม่วินิจฉัยในประเด็นข้ออื่นนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของโจทก์ในข้อนี้ฟังขึ้น
พิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์พิพากษาใหม่ในประเด็นตามอุทธรณ์ของโจทก์ที่ยังไม่ได้วินิจฉัย