คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3089/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

โจทก์เสียภาษีการค้าเกินอัตราให้แก่กรมสรรพากรจำเลยเป็นเรื่องหนี้เงินที่จำเลยเรียกเก็บผิดไปจากที่กฎหมายบัญญัติ เป็นเรื่องสิทธิเรียกร้องในหนี้เงิน เมื่อจำเลยไม่มีสิทธิอย่างใดในเงินที่เรียกเก็บนั้น จำเลยก็ต้องคืนเงินอันมีจำนวนเงินที่เกินให้โจทก์ กรณีไม่ใช่เรื่องครอบครองปรปักษ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แม้เงินจำนวนนี้ไม่มีอยู่ที่จำเลย เพราะตกได้แก่ แผ่นดินและรัฐบาลได้ใช้จ่ายไปแล้วเพื่อการบำรุงประเทศ หรือโจทก์ได้บวกค่าภาษีที่ได้ชำระไปแล้วรวมเข้ากับต้นทุนสินค้าและจำหน่ายให้กับผู้ซื้อ ก็หาเป็นเหตุที่จะทำให้จำเลย ไม่ต้องรับผิดไม่
เมื่อจำเลยได้รับการทวงถามจากโจทก์โดยชอบแล้ว ไม่ยอมคืนเงินภาษีที่โจทก์ชำระเกิน ถือได้ว่าจำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด ต้องรับผิดในดอกเบี้ยตั้งแต่วันผิดนัดเป็นต้นมา

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 98,946.74 บาทแก่โจทก์ ศาลอุทธรณ์พิพากษาได้ ให้จำเลยชำระเงินในต้นเงินดังกล่าวนับแต่วันที่ 13 มีนาคม 2516 จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติรับฟังได้ว่า สินค้าแป้งสาลี่ที่โจทก์สั่งเข้ามาจะต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 1.5 ของรายรับ ซึ่งคู่ความแถลงรับกันว่าเงินที่โจทก์เสียเกินเป็นเงิน 98,946.74 บาท โดยแยกเป็นภาษีการค้า89,447.20 บาท และภาษีเทศบาล 8,494.53 บาท” ฯลฯ

“จำเลยฎีกาต่อไปอีกว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะจำเลยได้กรรมสิทธิ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า กรณีเรื่องนี้เป็นหนี้เงินที่จำเลยเรียกเก็บผิดไปจากที่กฎหมายบัญญัติ เป็นเรื่องสิทธิเรียกร้องในหนี้เงิน เมื่อจำเลยไม่มีสิทธิอย่างใดในเงินที่เรียกเก็บนั้น จำเลยก็ต้องคืนเงินอันมีจำนวนเงินดังกล่าวให้โจทก์ กรณีไม่ใช่เรื่องครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 แม้เงินจำนวนนี้ไม่อยู่ที่จำเลยเพราะตกได้แก่แผ่นดินและรัฐบาลได้ใช้จ่ายไปแล้วเพื่อการบำรุงประเทศ หรือโจทก์ได้บวกค่าภาษีที่ได้ชำระไปแล้วรวมเข้ากับต้นทุนสินค้าและจำหน่ายให้แก่ผู้ซื้อดังฎีกาของจำเลย ก็หาเป็นเหตุที่จะทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิดไม่ ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น

จำเลยฎีกาข้อสุดท้ายว่าโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้อง ดอกเบี้ยเพราะจำเลยมิใช่ผู้ผิดนัดนั้น พิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์มีหนังสือทวงถามให้จำเลยคืนเงินภาษีที่โจทก์ชำระเกินไปเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2510 จำเลยก็มิได้ปฏิเสธในข้อนี้ เมื่อจำเลยได้รับทวงถามจากโจทก์โดยชอบแล้วไม่ยอมคืนให้ จึงถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้ผิดนัด ต้องรับผิดในดอกเบี้ยตั้งแต่วันผิดนัดเป็นต้นมา”

พิพากษายืน

Share