แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ร้องขัดทรัพย์ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ 2 รายการคือ ที่ดินและเรือนมีทุนทรัพย์รวมกัน 10,000 บาท (โจทก์นำยึดอ้างว่าที่ดินเป็นของจำเลยที่ 1 เรือนเป็นของจำเลยที่ 2) แม้ผู้ร้องขัดทรัพย์ฎีกาเฉพาะที่ดินซึ่งมีราคาเพียง 4,000 บาท ก็ต้องถือว่าคดีนี้มีทุนทรัพย์ 10,000 บาทจึงไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
ย่อยาว
คดีนี้ จำเลยทั้งสองทำยอมความต่อหน้าศาลใช้หนี้เงินกู้ให้โจทก์แล้วไม่ชำระตามกำหนด ผู้รับมรดกความของโจทก์ขอให้บังคับคดีและนำยึดที่ดินซึ่งมีบ่อปลา 2 บ่อ และเรือน 1 หลังเพื่อขายทอดตลาดชำระหนี้ อ้างว่าที่ดินเป็นของจำเลยที่ 1 เรือนเป็นของจำเลยที่ 2
ผู้ร้องขัดทรัพย์ร้องว่า ทรัพย์ดังกล่าวเป็นของผู้ร้อง ขอให้ศาลสั่งปล่อย
ศาลชั้นต้นให้ยกคำร้องที่เกี่ยวกับที่ดินแปลงนี้ ส่วนเรือนนั้นไม่ใช่ของจำเลยที่ 2 ให้ปล่อย
ผู้รับมรดกความโจทก์และผู้ร้องขัดทรัพย์ต่างอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้ร้องขัดทรัพย์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า คดีนี้ผู้ร้องขัดทรัพย์ร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดไว้ 2 รายการคือ ที่ดินและเรือน มีทุนทรัพย์รวมกัน 10,000 บาท แม้ผู้ร้องขัดทรัพย์ฎีกาเฉพาะที่ดินซึ่งมีราคาเพียง 4,000 บาท ก็ต้องถือว่าคดีนี้มีทุนทรัพย์ 10,000 บาท จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง
พิพากษายืน