แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
ความผิดของจำเลยที่เกี่ยวกับวีดีโอเทป 30 ม้วน ที่ไม่ ปิดฉลากอยู่ที่การเสนอขายโดยได้งดเว้นไม่ปิดฉลากที่วีดีโอ เทปดังกล่าว วีดีโอเทปของกลาง 30 ม้วนนี้ไม่ใช่ทรัพย์ที่ มีไว้เป็นความผิดและไม่ใช่ทรัพย์ที่จำเลยใช้หรือมีไว้ เพื่อ ใช้ ในการกระทำความผิดที่จะริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 32 หรือมาตรา 33
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 4, 6, 8, 15, 28, 31, 61, 70, 75, 76พระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530มาตรา 4, 6, 34 พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522มาตรา 3, 14, 30, 31, 52 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33,58, 91 สั่งให้วีดีโอเทปของกลางที่ละเมิดลิขสิทธิ์จำนวน 32 ม้วนดังกล่าวตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ ให้จ่ายเงินค่าปรับฐานละเมิดลิขสิทธิ์กึ่งหนึ่งให้แก่ผู้เสียหายกับริบวีดีโอเทปของกลางที่ไม่ปิดฉลากอีก 30 ม้วน และบวกโทษที่รอการลงโทษไว้ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2862/2540 และ 7628/2540 ของศาลแขวงดุสิต
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าจำเลยเคยต้องคำพิพากษาในคดีที่โจทก์ขอให้บวกโทษตามฟ้อง
ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 31,70 วรรคสองพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530มาตรา 6 วรรคหนึ่ง, 34 และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522มาตรา 30(2), 52 วรรคหนึ่ง เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้เรียงกระทงลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ความผิดตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 31, 70 วรรคสองให้จำคุก 6 เดือน และปรับ 200,000 บาท ความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมกิจการเทปและวัสดุโทรทัศน์ พ.ศ. 2530 มาตรา 6 วรรคหนึ่ง,34 ปรับ 20,000 บาท และความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 มาตรา 30(2), 52 วรรคหนึ่ง ให้ปรับ10,000 บาท รวมจำคุก 6 เดือน และปรับ 230,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก3 เดือน และปรับ 115,000 บาท และให้บวกโทษจำคุกในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 2862/2540 และคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 7628/2540ของศาลแขวงดุสิต เข้ากับโทษในคดีนี้รวมจำคุก 9 เดือน ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 วีดีโอเทปของกลางที่ละเมิดสิทธิ์ 32 ม้วน ให้ตกเป็นของเจ้าของลิขสิทธิ์ส่วนสิ่งที่ได้ใช้ในการกระทำความผิดให้ริบจ่ายเงินกึ่งหนึ่งของค่าปรับ (ค่าปรับในส่วนความผิดต่อพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์) แก่เจ้าของลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 76
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศวินิจฉัยว่า “คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่าสมควรที่จะรอการลงโทษแก่จำเลยหรือไม่ เห็นว่า แม้จำเลยจะเคยกระทำผิดทำนองเดียวกันนี้ 2 ครั้งแล้ว และมา กระทำผิดคดีนี้ในระหว่างระยะเวลาที่รอการลงโทษในคดีทั้งสองดังกล่าว แต่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางได้ลงโทษปรับจำเลยเป็นจำนวนที่สูงพอสมควรแล้ว ทั้งจำเลยเป็นหญิงและมีภาระต้องเลี้ยงดูมารดา จึงสมควรให้โอกาสจำเลยโดยรอการลงโทษให้อีกสักครั้งหนึ่งซึ่งเป็นแนวทางที่จะแก้ไขให้จำเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีดีกว่าจะพิจารณาลงโทษจำคุกจำเลย ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยโดยไม่รอการลงโทษนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น และเมื่อรอการลงโทษจำคุกแก่จำเลยจึงไม่อาจบวกโทษที่รอไว้ตามที่โจทก์ขอ อนึ่ง ที่โจทก์ขอให้ริบของกลางเฉพาะวีดีโอเทปที่ไม่ปิดฉลากจำนวน 30 ม้วนนั้น ความผิดของจำเลยที่เกี่ยวข้องกับของกลางดังกล่าวนี้อยู่ที่การเสนอขายโดยได้งดเว้นไม่ปิดฉลากที่วีดีโอเทปดังกล่าว วีดีโอเทปของกลาง 30 ม้วนนี้ไม่ใช่ทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิดและไม่ใช่ทรัพย์ที่จำเลยใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิดที่จะริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32 หรือมาตรา 33 ที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลางพิพากษาให้ริบของกลางดังกล่าวจึงไม่ถูกต้อง ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไข”
พิพากษาแก้เป็นว่า โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 ยกคำขอให้บวกโทษแก่จำเลยส่วนวีดีโอเทปของกลางที่ไม่ปิดฉลากจำนวน 30 ม้วน ให้คืนแก่เจ้าของ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง