คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2943/2522

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172 การรับสภาพหนี้จะต้องกระทำโดยลูกหนี้ก็จริง แต่ลูกหนี้อาจตั้งตัวแทนให้ชำระหนี้ก็ได้ ซึ่งย่อมต้องถือว่าเป็นการชำระหนี้ของลูกหนี้นั้นเอง
น้องชายลูกหนี้ได้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ แม้เจ้าหนี้จะมิได้นำสืบว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้ก็ตาม แต่การที่น้องชายชำระหนี้แทนพี่ชาย และเจ้าหนี้ยอมรับชำระหนี้ของลูกหนี้จากน้องชายของลูกหนี้หลายครั้งติดต่อกันมา ถือได้ว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้โดยปริยาย
น้องชายลูกหนี้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2518 เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2519 หนี้รายนี้จึงไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

คดีนี้ ศาลมีคำสั่งพิทักษ์จำเลยเด็ดขาดตามมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ บริษัทดีทแฮล์ม จำกัด เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ตามมาตรา ๙๑ จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้เป็นเงิน ๗๑,๖๓๖ บาท ๒๐ สตางค์
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้นัดบรรดาเจ้าหนี้และลูกหนี้มาตรวจคำขอรับชำระหนี้ตามมาตรา ๑๐๔ แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ แล้ว นายเชิดชัย ดวงส่าน ผู้แทนเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์โต้แย้งว่า หนี้ของเจ้าหนี้มิได้มีมูลหนี้ตามกฎหมายและหนี้ขาดอายุความแล้วขอให้ยกคำขอรับชำระหนี้
เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สอบสวนแล้วมีความเห็นให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ ตามมาตรา ๑๐๗ (๑) แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกคำขอรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ตามความเห็นของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
เจ้าหนี้อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วพิพากษายืน
เจ้าหนี้ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ตั้งแต่วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๑๕ ถึง วันที่ ๘ พฤษภาคม ๒๕๑๖ ลูกหนี้เป็นหนี้ค่ายางรถยนต์บรรทุกที่ซื้อไปจากเจ้าหนี้รวมเป็นเงิน ๑๑๖,๕๙๙ บาท ๘๐ สตางค์ ชำระหนี้แล้วเป็นเงิน ๕๙,๑๙๖ บาท โดยชำระหนี้ด้วยเงินสดและเช็ครวม ๗ ครั้ง ครั้งแรกถึงครั้งที่ ๓ ลูกหนี้เป็นผู้ชำระ ซึ่งชำระครั้งที่ ๓ เมื่อวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๑๖ ส่วนครั้งที่ ๔ ถึงครั้งที่ ๗ น้องชายลูกหนี้เป็นผู้ชำระซึ่งชำระครั้งที่ ๔ เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๑๗ และครั้งที่ ๗ เมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๑๘ เจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้รายนี้เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ และวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๗๒ การรับสภาพหนี้จะต้องกระทำโดยลูกหนี้ก็จริง แต่ลูกหนี้อาจตั้งตัวแทนให้ชำระแทนได้ ซึ่งย่อมต้องถือว่าเป็นการชำระหนี้ของลูกหนี้นั้นเอง คดีนี้ได้ความว่าน้องชายลูกหนี้ได้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ แม้เจ้าหนี้จะมิได้นำสืบว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้ก็ตาม แต่การที่น้องชายชำระหนี้แทนพี่ชายและเจ้าหนี้ยอมรับชำระหนี้ของลูกหนี้จากน้องชายของลูกหนี้หลายครั้งติดต่อกันมาถือได้ว่าน้องชายเป็นตัวแทนของลูกหนี้โดยปริยาย เพราะหากไม่ถือเป็นตัวแทนแล้วไม่มีเหตุผลใดที่อยู่ดีๆ น้องชายจะชำระหนี้ให้พี่ชาย คดีได้ความว่าน้องชายลูกหนี้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ครั้งหลังสุดเมื่อวันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๑๘ เจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ หนี้รายนี้จึงไม่ขาดอายุความ
พิพากษากลับ ให้เจ้าหนี้รับชำระหนี้ได้ตามขอ แล้วให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ดำเนินการต่อไป

Share