คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2885/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตราสำคัญของบริษัทโจทก์ที่ประทับในหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีมีรูปร่างลักษณะเหมือนกับตราสำคัญซึ่งได้จดทะเบียนไว้ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท แม้จะมีขนาดเล็กกว่าแต่ก็ไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้ และเป็นตราที่โจทก์ใช้ในกิจการทั่ว ๆ ไปเป็นประจำทั้งกรรมการผู้มีอำนาจของโจทก์ยืนยันว่าเป็นผู้มอบอำนาจให้ฟ้องคดีการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีของโจทก์จึงชอบแล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยชำระเงินตามเช็คจำนวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งจำเลยลงลายมือชื่อสั่งจ่ายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ แต่ธนาคารปฏิเสธการใช้เงิน พร้อมทั้งดอกเบี้ยในอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีของเงินดังกล่าวนับตั้งแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการใช้เงินจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การว่า จำเลยไม่เคยกู้เงินโจทก์และไม่เคยสั่งจ่ายเช็คตามฟ้อง ตราประทับในหนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีไม่ใช่ตราประทับของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์เป็นเงิน ๒๑๕,๐๐๐บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีจากต้นเงิน ๒๐๐,๐๐๐ บาทนับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระหนี้เสร็จ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีมีปัญหาวินิจฉัยในชั้นนี้ตามฎีกาของจำเลยเพียงว่า การมอบอำนาจให้ฟ้องคดีของโจทก์ชอบหรือไม่โจทก์มีนายอุทัย จี้อนันต์ศักดิ์ศิริ และนายอนันต์ เสงี่ยมพุทธคุณเป็นพยานเบิกความต้องกันว่า พยานทั้งสองในฐานะกรรมการโจทก์เป็นผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของโจทก์กระทำการแทนโจทก์ได้ พยานทั้งสองได้มอบอำนาจให้นางสาววรรณี ลี้อนันต์ศักดิ์ศิริ ฟ้องคดีนี้แทน ตราสำคัญที่ประทับใหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวก็เป็นตราของโจทก์ที่ใช้ในกิจการทั่ว ๆ ไปและมีนายเทพ กาญจนพันธ์ พาณิชย์จังหวัดขอนแก่นและเป็นนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท จังหวัดขอนแก่นซึ่งนับได้ว่าเป็นพยานคนกลางเป็นพยานเบิกความว่า การใช้ตราสำคัญของบริษัทนั้นไม่ว่าขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กกฎหมายไม่ได้บัญญัติไว้ เฉพาะกรณีจะเปลี่ยนแปลงแก้ไขรายการในทะเบียนที่จดไว้นั้นกรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อแทนบริษัทจะต้องประทับตราสำคัญของบริษัทที่ให้ไว้เป็นตัวอย่าง หากประทับตราอื่นมาทางสำนักงานทะเบียนพาณิชย์จะไม่รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรายการให้ ศาลฎีกา เห็นว่า ตราสำคัญของโจทก์ที่ประทับในเอกสารหมาย จ.๒ นั้นมีรูปร่างลักษณะเหมือนกับตราสำคัญตามเอกสารหมาย ล.๒ ที่โจทก์ให้เป็นตัวอย่างไว้ต่อสำนักงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดขอนแก่นทุกประการ ผิดกันเฉพาะขนาดเท่านั้นและเป็นตราที่โจทก์ใช้ในกิจการทั่ว ๆ ไปเป็นประจำการที่โจทก์ใช้ตราสำคัญซึ่งได้จดทะเบียนไว้ต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทจังหวัดขอนแก่นแม้จะเป็นขนาดเล็กกว่าก็ตาม ก็ได้ความจากนายเทพซึ่งเป็นนายทะเบียนว่าไม่มีกฎหมายบัญญัติห้ามไว้ นายอุทัย และนายอนันต์ซึ่งเป็นกรรมการของโจทก์ก็ยืนยันว่าคนทั้งสองได้มอบอำนาจให้นางสาววรรณีฟ้องคดีนี้แทน ดังนั้นการมอบอำนาจให้ฟ้องคดีของโจทก์จึงชอบแล้ว ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยตามที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษามา ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.

Share