คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 284/2491

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เทศมนตรีไปที่โรงเก็บของของเทศบาล บอกแก่ผู้เก็บรักษาว่าจะเอาไปซ่อม แล้วเอาของนั้นไปโดนเจตนาทุจจริตนั้น เป็นผิดฐานลักทรัพย์
เอาทรัพย์ของผู้อื่นไปขายโดยเจตนาทุจจริต แม้จะเอาเงินมา+ให้เจ้าของบ้าง ก็คงเป็นผิดฐานลักทรัพย์
ฟ้องว่าจำเลยเป็นเทศมนตรีเอาทรัพย์ของเทศบาลไปขายโดยเจตนาทุจจริต อันเป็นผิดตามมาตรา 132 นั้น ถ้ามิได้ระบุว่าจำเลยมีหน้าที่เกี่ยวกับของนั้นอย่างไรแล้ว จะลงโทษตาม ม.132ไม่ได้
ในการกระทำอันเดียวกัน โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานลักทรัพย์และฐานเจ้าพนักงานทุจจริตต่อหน้าที่ ศาลชั้นต้นยกข้อหาฐานลักทรัพย์ แต่ให้ลงโทษฐานทุจจริตต่อหน้าที่ จำเลยอุทธรณ์ฎีกาขึ้นมาฝ่ายเดียว เมื่อศาลสูงเห็นว่าการกระทำนั้น ไม่เป็นผิดฐานทุจจริตต่อหน้าที่ แต่เป็นผิดฐานลักทรัพย์ ดังนี้ย่อมลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า (ก) จำเลยในคดีนี้มีตำแหน่งหน้าที่ในทางการงานของเทศบาลเมืองสิงห์บุรี เป็นเทศมนตรี จำเลยได้บังอาจลักยางนอกรถยนตร์ ๔ เส้น ยางใน ๔ เส้น วงล้อ ๑ วง ราคา ๕,๐๐๐ บาท ของเทศบาลเมืองสิงห์บุรี ซึ่งอยู่ในความควบคุมดูแลของนายทรัพย์ ภาณุหัตนายกเทศมนตรี อันให้นายแนบเฝ้าเก็บรักษาไว้ที่โรงไฟฟ้าเทศบาล โดยจำเลยใช้อุบาลบอกแก่นายแนบว่าจะเอาไปซ่อม (ข) ตามความผิดของจำเลยในข้อ (ก) จำเลยมิได้มีอำนาจอันชอบด้วยกฏหมาย ได้บังอาจใช้ตำแหน่งหนาที่เทศมนตรีลักเอายางรถยนตร์และวงล้อดังกล่าวแล้วไปขายให้บุคคลอื่น โดยจำเลยใช้อุบายในทางทุจจริตว่า ขายได้ราคา ๓,๐๐๐ บาท อันเป็นราคาต่ำและถูก ซึ่งราคายางรถยนตร์ในขณะนั้นมีราคา ๕,๐๐๐ บาท กับการกระทำของจำเลยเป็นการหาประโยชน์กำไรมิควรได้ไว้เป็นประโยชน์ของจำเลยและผู้อื่น ซึ่งเป็นการเสียผลประโยชน์ของเทศบาลเมืองสิงห์บุรี ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๒๙๓, ๑๒๙, ๑๓๒
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา, โดยผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รับรองให้ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ความผิดตามมาตรา ๑๓๒ นั้น ฟ้องโจทก์กล่าวว่า ยางและวงล้อรถยนตร์รายนี้อยู่ในความควบคุมดูแลของนายกเทศมนตรี ซึ่งให้นายแนบเก็บรักษา ไม่ได้กล่าวว่าจำเลยมีหน้าที่เกี่ยวแก่ของเหล่านี้แต่อย่างใดเลย ถือว่าขาดองค์สำคัญแห่งความผิดตามมาตรา ๑๓๒ แต่โจทก์ได้ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์มาด้วย ซึ่งข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยบังอาจเอายางรถยนตร์ของเทศบาล ซึ่งอยู่ในความควบคุมดูแลของนายกเทศมนตรีไปขายโดยนายกเทศมนตรีไม่อนุญาต ถึงแม้จำเลยจะได้นำเงินที่ขายมาส่งให้ก็ตาม ก็ปรากฏว่าเงินที่จำเลยนำมาส่งนั้นต่ำกว่าราคายางเป็นอันมาก แสดงให้เห็นเจตนนาทุจจริตของจำเลย ๆ ต้องมีความผิดฐานลักทรัพย์ตามกฎหมายลักษณะอาญามาตรา ๒๙๓
จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา ม. ๒๙๓.

Share