คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 281/2475

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ให้การขั้นไต่สวนอย่างหนึ่งให้การขั้นศาลอย่างหนึ่งโจทก์ต้องสืบว่าคำให้การขั้นไหนเป็นเท็จ และขั้นไหนเป็นจริง วิธีพิจารณาอาชญาหน้าที่นำสืบ ลักษณพะยาน คำขัดของผู้ไปกระทำผิดร่วม+ประกอบไม่ได้ พ.ร.บ.ฎีกาอุทธรณ์ ผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รับรองฎีกา

ย่อยาว

คดีนี้ศาลล่างทั้งสองตัดสินว่านายฮงเบิกความเท็จ นายชาเป็นผู้ยุยงเสี้ยมสอน ให้จำคุกทั้งสองคนแต่ไม่เกิน ๕ ปี
จำเลยฎีกาโดยมีผู้พิพากษาศาลอุทธรณ์รับรอง
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่านางฮงเบิกความชั้นไต่สวนไว้อย่างหนึ่งว่าได้เห็นนางหงวนกับพวกฆ่าพระยาพายัพ ครั้นมาชั้นศาลนายฮงให้การว่าไม่รู้เห็นเหตุการณ์ ศาลล่างฟังว่าคำให้การชั้นศาลเป็นเท็จ อ้างเหตุว่านางฮงให้การต่อเจ้าพนักงานในสถานที่ต่าง ๆ หลายครั้งมีข้อความตรงกันในข้อสำคัญ ศาลฎีกาเห็นว่าความสันนิษฐานของศาลล่างอาจผิดจากความเป็นจริงได้ และที่ศาลล่างฟังคำนายหงวนผู้ยิงพระยาพายัพซึ่งให้การต่อเจ้าพนักงานว่านายฮงได้ไปด้วยมาประกอบนั้น ศาลฎีกาเห็นว่าจะเอาคำนายหงวนมาประกอบไม่ได้ เพราะเท่ากับคำผู้ร้ายซัดพวก เพื่อนด้วยกัน ย่อมไม่มีน้ำหนักว่าผู้ซัดเป็นพิรุธ เมื่อคดีโจทก์ยังฟังไม่ได้ว่าคำให้การนางฮงชั้นไต่สวนเป็นความจริงแล้วจะชี้ขาดคำให้การชั้นศาลเป็นคำเท็จไม่ได้ นางฮงยังไม่มีผิด
ส่วนข้อหาว่านายชายยุยงเสี้ยมสอนให้นางฮงเบิกความเท็จนั้น เมื่อได้ความว่านายฮงไม่มีความผิดฐานเบิกความเท็จแล้วก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่จะแสดงให้เห็นว่านายชาจะยุยงนายฮงให้เบิกความตรงข้ามกับที่เบิกไว้ชั้นศาล เพราะจะเป็นปรปักษ์ต่อ บุตรบุญธรรมของนายชา

Share