แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกอุทธรณ์อย่างคนอนาถาของจำเลย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีเหตุสมควรที่จะอุทธรณ์ จำเลยเป็นคนยากจน ไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมและคดีในชั้นอุทธรณ์เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์เสียค่าขึ้นศาลไม่มากจึงอนุญาตให้อุทธรณ์อย่างคนอนาถาโดยยกเว้นค่าธรรมเนียมเงินวางศาล ดังนี้ โจทก์จะฎีกาว่าคดีชั้นอุทธรณ์เป็นคดีมีทุนทรัพย์ ศาลอุทธรณ์ยกเว้นค่าธรรมเนียมเงินวางศาลโดยเห็นว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ไม่ถูกต้องนั้น เป็นฎีกาโต้แย้งคัดค้านเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกขึ้นวินิจฉัยในการใช้ดุลพินิจยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลตามคำสั่ง อนุญาตให้จำเลยอุทธรณ์ อย่างคนอนาถาซึ่งคำสั่งเช่นว่านี้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 บัญญัติให้เป็นที่สุด ต้องด้วยข้อยกเว้นมิให้ฎีกาตาม มาตรา 247, 223
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องจากศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินของโจทก์ จำเลยอุทธรณ์ และยื่นคำร้องขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งยกคำร้อง จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาตให้จำเลยอุทธรณ์อย่างคนอนาถา โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีนี้จำเลยอุทธรณ์และขออุทธรณ์อย่างคนอนาถา ศาลชั้นต้นสอบถามคู่ความทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำขอของจำเลย จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่ามีเหตุสมควรที่จะอุทธรณ์ จำเลยเป็นคนยากจน ไม่มีทรัพย์สินพอจะเสียค่าธรรมเนียมและคดีในชั้นอุทธรณ์เป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์เสียค่าขึ้นศาลไม่มาก จึงอนุญาตให้อุทธรณ์อย่างคนอนาถา โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมเงินวางศาลในการยื่นอุทธรณ์ให้ ดังนี้ พิเคราะห์แล้ว ที่โจทก์ฎีกาว่าคดีชั้นอุทธรณ์เป็นคดีมีทุนทรัพย์ ศาลอุทธรณ์ยกเว้นค่าธรรมเนียมเงินวางศาลโดยเห็นว่าเป็นคดีไม่มีทุนทรัพย์ ไม่ถูกต้องนั้น เห็นว่าเป็นฎีกาโต้แย้งคัดค้านเหตุผลที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกขึ้นวินิจฉัยในการใช้ดุลพินิจยกเว้นค่าธรรมเนียมศาลตามคำสั่งอนุญาตให้จำเลยอุทธรณ์อย่างคนอนาถา ซึ่งคำสั่งเช่นว่านี้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 156 วรรคท้าย บัญญัติว่าให้เป็นที่สุดแล้ว ต้องด้วยข้อยกเว้นมิให้ฎีกาตามบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 247 ประกอบด้วยมาตรา 223 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้”
พิพากษายกฎีกาโจทก์