แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฟ้องว่าจำเลยลักทรัพย์ของผู้มีชื่อ ทางพิจารณาได้ความว่าผู้นั้นเป็นเพียงผู้ดูแลรักษาทรัพย์นั้นดังนี้ ถือว่าผู้นั้นเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่ข้อเท็จจริงต่างกับฟ้อง
ฟ้องกล่าวถึงทรัพย์ที่ถูกคนร้ายลักไปแล้วกล่าวว่าจำเลยลักหรือรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้าย แม้ไม่ระบุว่าจับได้จากจำเลยหรือจำเลยได้กระทำอย่างอื่นใดแก่ทรัพย์นั้น ก็ไม่ถือว่าเป็นฟ้องเคลือบคลุม
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่ามีคนร้ายลักกระบือของนายจันไป เจ้าทรัพย์ตามได้กระบือคืน ทั้งนี้โดยจำเลยทั้งสองบังอาจสมคบกันเป็นคนร้ายลักหรือมิฉะนั้นจำเลยทั้งสองสมคบกันรับทรัพย์ของกลางไว้โดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ได้มาโดยการกระทำผิดกฎหมาย ขอให้ลงโทษตาม มาตรา 293, 294, 321
ศาลชั้นต้นสืบพยานได้ปาก 1 แล้วโจทก์ขอแก้ฟ้องว่ากระบือเป็นของนายเนื้อ ส่วนนายจันเป็นผู้ดูแลรักษาแทน ศาลชั้นต้นสั่งไม่อนุญาต เมื่อสืบพยานเสร็จแล้วยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าฟ้องของโจทก์ไม่ได้ภาษาและไม่ได้กล่าวว่าจำเลยทำอะไรอันจะอ้างได้ว่าจำเลยลักหรือรับกระบือโดยรู้ว่าเป็นของร้าย จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์ฎีกา ศาลฎีกาเห็นว่า นายจัน เป็นบุตรเขยนายเนื้อ ๆ มอบกระบือให้นายจันดูแลแทน นายจันย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้เสียหายมิใช่เรื่องผิดเจ้าของและทำให้จำเลยหลงต่อสู้ ข้อเท็จจริงจึงไม่ต่างกับฟ้อง ส่วนคำบรรยายฟ้อง ก็เพียงพอที่จะให้จำเลยเข้าใจได้ดีแล้วว่า ถูกหาว่าลักหรือรับไว้โดยรู้ว่าเป็นของร้าย ส่วนลักษณะของการกระทำ เช่นขี่ไปหรือจูงไป หรือรับฝากรับจำนำเป็นพละความจึงให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง ให้ศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้วพิพากษาใหม่