แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ซึ่งเป็นผู้เยาว์ถูกกระทำละเมิดได้ยื่นฟ้องคดีโดยบิดาผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นผู้ฟ้องคดีแทน แม้ขณะยื่นฟ้องบิดามิได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาโจทก์ ก็เป็นเพียงข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถในชั้นยื่นฟ้อง ซึ่งอาจแก้ไขให้ถูกต้องบริบูรณ์ได้เมื่อบิดามารดาโจทก์ได้จดทะเบียนสมรสกันในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลชั้นต้นแล้วเหตุบกพร่องในเรื่องความสามารถของผู้ฟ้องคดีในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมย่อมหมดไป การฟ้องคดีของโจทก์จึงสมบูรณ์.
(อ้างฎีกาที่ 1608/2509 ประชุมใหญ่)
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของ ว. จำเลยที่ ๑ เป็นลูกจ้างหน้าที่ขับรถขนขยะจำเลยที่ ๒ ได้ขับรถประมาทชนรถจักรยานที่โจทก์นั่งซ้อนท้ายเป็นเหตุให้โทก์ได้รับอันตรายแก่กายสาหัส ขอให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน
จำเลยทั้งสองให้การว่า โจทก์จะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของ ว. หรือไม่ไม่รับรอง จำเลยที่ ๑ มิได้ประมาทและกระทำการนอกทางการที่จ้างของจำเลยที่ ๒ ค่าเสียหายมีไม่มาก ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินจำนวน ๑๘๗,๑๐๘ บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๒๕ เป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน ๑๐๖,๐๐๘ บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยร้อยละเจ็คครึ่งต่อปี นับแต่วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๒๕ เป็นต้นไปจนกว่าชำระเสร็จ
โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฏีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า สำหรับปัญหาเรื่องอำนาจฟ้องปรากฎว่า ว.ได้ยื่นฟ้องในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมของโจทก์ผู้เป็นบุตร ในขณะยื่นฟ้อง ว. มิได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาโจทก์ แต่ในระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นต้น ว. กับมารดาโจทก์ได้จดทะเบียนสมรสกัน ที่จำเลยทั้งสองฏีกาว่า การเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายมีผลนับแต่วันสมรสตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๕๕๗ (๑) โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนนั้น เห็นว่า อำนาจฟ้องเป็นของโจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายในเหตุละเมิดจากการกระทำของจำเลยที่ ๑ ตามฟ้อง เป็นแต่ว่าโจทก์ยังเป็นบุคคลผู้ไร้ความสามารถโดยยังเป็นผู้เยาว์ ซึ่งการเสนิข้อหาต่อศาลจะต้องให้ผู้แทนโดยชอบธรรมเป็นผู้เสนอข้อหาต่อศาลแทนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑ (๑๒) (๑๓), ๕๖ เมื่อขณะฟ้องคดี ว. ผู้เป็นบิดายังมิได้จดทะเบียนสมรสกับมารดาโจทก์ก็เป็นเพียงข้อบกพร่องในเรื่องความสามารถในชั้นยื่นฟ้อง ซึ่งอาจมีการแก้ไขเสียให้ถูกต้องบริบูรณ์ได้ ดังนั้น เมื่อได้มีการสมรสอันทำให้ ว. มีฐานะเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์แล้ว เหตุบกพร่องในความสามารถของผู้ฟ้องคดีในฐานะผู้แทนโดยชอบธรรมย่อมจะหมดไป หาได้เกี่ยวกับอำนาจฟ้องของโจทก์ในฐานะผู้ถูกทำละเมิดดังข้อฎีกาของจำเลยไม่ ฎีกาจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.