คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273-274/2475

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หมายความว่าทรัพย์ที่พระได้มาเมื่อระวางบวช ถ้าทรัพย์หรือสิทธิมีก่อนบวชไม่ใช่มฤดกพระที่ตกแก่อารามก่อนบวชได้รับมฤดกที่ดินแต่พึ่งมาโอนใส่ชื่อเมื่อบวชแล้ว ที่ดินนั้นไม่เป็นของพระอาราม ญาติสนิท+ญาติห่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม +มฤดก ศก.121 ม.4 ฟ้องเรียกมฤดกปรากฎว่า มีญาติอื่นควรได้ส่วนแบ่งด้วย+กันส่วนนั้นไว้ให้ ผู้รับมฤดกสาบสูญให้กอบหมายรักษาส่วนนั้นไว้

ย่อยาว

ได้ความว่าที่รายพิพาทนี้เป้นของบิดามารดาพระภิกษุสี ก่อนพระภิกษุสีบวชมารดาตาย พระภิกษุสีก็ได้ปกครองเป็นเจ้าของแต่ผู้เดียว บิดาไม่ได้เกี่ยวข้องกับมฤดกนี้เลย ภายหลังพระภิกษุสีและบิดาไปบวช บิดาตายระวางบวช เมื่อเจ้าพนักงานมารังวัดเพื่อออกโฉนด พระภิกษุสีขอรับโฉนดใส่ชื่อตนเป็นเจ้าของต่อมาพระภิกษุสีตาย กรมพระคลังฟ้องนายแจ่มว่า ที่พิพาทเป็นของวัด ห้ามไม่ให้นางแจ่มเกี่ยวข้อง ฝ่ายนายปลีกก็ฟ้องนางเล่มแลกรมพระคลังว่าตนเป็นหลานสืบสายโลหิตของพระภิกษุสีขอรับมฤดก
ศาลฎีกาเห็นว่าทรัพย์ของพระภิกษุที่จะตกแก่อารามนั้นตามมฤดกบทที่ ๓๖ จะต้องเป็นทรัพย์ที่พระได้มาระวางบวช แต่มฤดกนี้เป็นของพระภิกษุสีก่อนบวช แม้จะใส่ชื่อในโฉนดเมื่อบวชแล้วก็ไม่ทำให้ที่รายนี้กลายเป็นทรัพย์ที่ได้มาระวางบวช วัดไม่มีสิทธิจะเกี่ยวข้องกับที่รายพิพาทนี้และนายปลีกเป็นหลานสืบสายโลหิตของพระภิกษุสี ส่วนนางแจ่ม นายศุขนั้นเป็นแต่เพียงลูกพี่ลูกน้อง มฤดกควรตกแก่พวกนายปลีก ๆ มีน้องสาวอีกคนหนึ่งซึ่งหายสาบสูญจึงตัดสินให้นายปลีกได้ครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งให้กองทรัพย์รักษาไว้สำหรับน้องสาวนายปลีก

Share