แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ชายหญิงที่เป็นพี่น้องร่วมแต่+หรือร่วมแต่มารดาเดียวกัน+สกันก่อนใช้ ป.ม.แพ่งฯ บรรพ 5 ย่อมเป็นสามีภรรยา+ได้ ปัญหาที่หญิงชายจะเป็นสามีภรรยากันได้ตามกฎหมายหรือไม่นั้น+ปัญหาอันเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน คู่ความ+อ้างเมื่อสืบพะยานเสร็จก็ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยรับเงินมัดจำชายที่โจทก์แล้วผิดสัญญาเป็นเหตุให้โจทก์เสียหายและว่าสามีจำเลยก็รู้เห็นการซื้อขายโดยตลอด ขอให้จำเลยคืนมัดจำแลใช้ค่าเสียหาย
จำเลยต่อสู้หลายประการและว่าสามีไม่รู้เห็น และสามีได้บอกล้างนิติกรรมนี้แล้ว นายประพาศซึ่งอ้างว่าเป็นสามีจำเลยขอเข้าร่วมเป็นจำเลยด้วย
ศาลแพ่งวินิจฉัยว่า โจทก์ยื่นคำแถลงเมื่อเสร็จการสืบพะยานแล้วว่า จำเลยกับผู้ร้องสอดเป็นสามีภรรยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลแพ่งเห็นว่าโจทก์ไม่ได้ยกขึ้นคัดค้านไว้ จึงเป็นข้อนอกประเด็นไม่รับวินิจฉัย แล้วตัดสินให้จำเลยและผู้ร้องชนะคดีตามข้อต่อสู้
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกาว่าจำเลยกับผู้ร้องไม่เป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย เพราะเป็นพี่น้องกัน และกฎหมายนี้เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน โจทก์ยกขึ้นอ้างได้ไม่ว่าในชั้นใด
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยกับผู้ร้องสมรสกันก่อนใช้ประมวลแพ่งบรรพ ๕ จึงต้องปรับตามกฎหมายลักษณะผัวเมียบทที่ ๓๖ ซึ่งเป็นกฎหมายให้ลงโทษทางอาญา ต้องพิจารณาโดยเคร่งครัดกฎหมายนี้ไม่บ่งว่า พี่น้องที่ต้องห้ามทำชู้กันนั้น แม้ร่วมสายโลหิตกันเพียงทางบิดาหรือทางมารดาก็ทำชู้กันไม่ได้ ท่านจึงนำจะเพ่งเล็งห้ามฉะเพาะพี่น้องที่ร่วมทั้งบิดามารดา จำเลยกับผู้ร้องเพียงแต่ร่วมบิดาจึงสมรสกันได้ จึงพิพากษายืนตามศาลล่าง