คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2701/2529

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,289,339,340 ตรี,83 ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามมาตรา 288,339,340 ตรี,80 ลงโทษตามมาตรา 288,80 นอกนั้นให้ยกศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องข้อหาตามมาตรา 288,80 และมาตรา340 ตรีด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นดังนี้ เมื่อข้อหาตามมาตรา 289 ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ยกฟ้องโดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหา ข้อเท็จจริงสำหรับข้อหาดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 289,339, 340 ตรี, 83 ริบปลอกกระสุนปืนของกลาง คืนรถจักรยานยนต์และรองเท้าแก่เจ้าของ

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 339, 340 ตรี 80 ให้ลงโทษตามมาตรา 288, 80ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 10 ปี ริบปลอกกระสุนปืนของกลาง คืนรถจักรยานยนต์และรองเท้าแก่เจ้าของ นอกนั้นให้ยก

โจทก์ จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 และมาตรา 340 ตรี เสียด้วย นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

โจทก์ จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ส่วนข้อที่โจทก์ฎีกาว่า การที่จำเลยกับพวกใช้ปืนยิงสวนตอบผู้เสียหายย่อมมีความประสงค์สถานเดียวเพื่อฆ่าผู้ติดตามในระยะห่างเพียง 25 เมตร จำเลยจึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289(7), 80 นั้น ศาลฎีกาเห็นว่าเฉพาะข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289 นี้ ทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาต้องกันให้ยกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

พิพากษายืน

Share