คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 27/2466

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ที่ดิน ที่ชายตลิ่ง กรรมสิทธิ์

ย่อยาว

โจทย์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลย ให้รื้อเรือนไปจากที่ชายตลิ่งริมแม่น้ำปิง แลขอให้ลงโทษจำเลยตามกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๖ ข้อ ๒ ข้อ ๔ แลลักษณเบ็ดเสร็จบทที่ ๓๕ จำเลยให้การต่อสู้ว่าที่รายนี้จำเลยได้รับโอนมาจากนางส. นางส.ได้ปลูกเรือนอยู่ในที่รายนี้มาประมาณ ๒๐ ปี
ศาลฎีกาตัดสินว่า แม้จะได้ความว่านาง ส.ได้ปลูกเรือนอยู่ในที่รายนี้เมื่อ ๒๐ ปีก่อนก็ดี ก็หามีหนังสือสำคัญสำหรับที่ไม่ เพราะเจ้าพนักงานมิได้ออกหนังสือสำคัญให้ผู้ใดมีกรรมสิทธิเปนเจ้าของที่ชายตลิ่งอันติดกับถนนหลวง แลว่าที่ชายตลิ่งซึ่งตัวตลิ่งข้างบนเปนถนนหลวงเช่นนี้ผิดกับที่บนตลิ่งซึ่งมีบ้านเรือนราษฎรตั้งอยู่เพราะที่บนตลิ่งซึ่งราษฎรตั้งอยู่นั้น เจ้าของที่ดินมีสิทธิที่จะทำอะไรลงมาที่ชายตลิ่งหรือจะจอดแพที่น่าบ้านของตนก็ได้เมื่อไม่เปนการกีดขวางทางเรือ จำเลยจะถือว่าตนมีกรรมสิทธิ์ในที่ชายตลิ่งอย่างราษฎรผู้เปนเจ้าของที่ดินบนตลิ่งไม่ได้ แลเมื่อจำเลยรื้อเรือนของนาง ส.ไปแล้ว ก็ไม่มีหลักฐานอะไรอันจะทำให้จำเลยมีกรรมสิทธิ์ในที่รายนี้ แลเมื่อต่อมาที่รายนี้ตกอยู่ในความปกครองของกรมศุขาภิบาล เจ้าพนักงานได้ห้ามมิให้ผู้ใดปลูกเรือนหรือทำอะไรกีดขวางที่ชายตลิ่ง ก็หาได้มีผู้ใดกีดขวางแสดงกรรมสิทธิ์ในที่รายนี้ไม่ ข้อที่จำเลยอ้างว่าได้ปลูกร้านแผงลอยในที่รายนี้เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๓ เจ้าพนักงานไม่ได้ว่ากล่าวเปนเครื่องแสดงว่าได้ปกครองนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า แม้เจ้าพนักงานศุขาภิบาลจะมิได้ห้ามก็ดี ก็เพราะเวลานั้นยังไม่เปนที่กำบังตาหรือกีดขวางทางราษฎร จำเลยจะอ้างว่าตนได้ปกครองโดยอำนาจปรปักษ์ต่อรัฐบาลไม่ได้ เมื่อจำเลยได้ปลูกเรือนเปนที่กีดขวางกำบังตาแก่ผู้ขับยานพาหนะอาจจะโดนกันแลเปนที่กีดขวางทางราษฎรขึ้นลงดังนี้ โจทย์มีอำนาจฟ้องขอให้ขับไล่ได้ แต่ข้อหาขอให้ลงโทษนั้น เห็นว่าจำเลยปลูกเรือนบนชายตลิ่ง ไม่ได้ปลูกสร้างอะไรลงในถนนหลวงโดยไม่ได้รับอนุญาต จำเลยยังไม่มีผิด แลคดีเรื่องนี้ไม่ตรงกับกฎหมายเบ็ดเสร็จบทที่ ๓๕ จึงให้ขับไล่จำเลยให้รื้อเรือนไป

Share