แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเรื่องอายุความมรดกเป็นประเด็นไว้และจำเลยก็มิได้โต้แย้งหรือคัดค้าน จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทในเรื่องอายุความมรดก จำเลยย่อมหมดสิทธิอุทธรณ์ ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในเรื่องอายุความมรดก จึงเป็นการนอกประเด็น
ที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์มรดกของ ม. ซึ่งไม่ได้ทำพินัยกรรมยกให้ผู้ใด จำเลยเป็นทายาทโดยธรรมคนหนึ่งของม. ย่อมมีสิทธิได้รับมรดกที่ดินแปลงนี้ และมีส่วนเป็นเจ้าของรวมในที่ดินแปลงนี้ด้วย จำเลยปลูกบ้านอยู่ในที่พิพาทมาตั้งแต่เจ้ามรดกยังไม่ตาย หลังจากเจ้ามรดกตายก็ยังคงอยู่ต่อมา จำเลยมีสิทธิใช้ทรัพย์สินในฐานะเจ้าของรวม โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากที่ดินพิพาท
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้จัดการมรดกของนางม้วน นาคศิริ จำเลยปลูกบ้านเลขที่ 62/15 อาศัยอยู่ในที่ดินของเจ้ามรดก โจทก์ไม่ประสงค์จะให้จำเลยอยู่ในที่ดินมรดกอีกต่อไป จึงฟ้องขับไล่จำเลย
จำเลยให้การว่า บิดามารดาได้ยกที่ดินพิพาทให้จำเลยมานาน 20 ปีแล้วจำเลยครอบครองจนได้กรรมสิทธิ์ตามกฎหมาย ทั้งคดีขาดอายุความมรดก
ศาลชั้นต้นกะประเด็นข้อพิพาทว่า
1. ที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยโดยการครอบครองปรปักษ์หรือไม่
2. ค่าเสียหายของโจทก์เท่าใด
ศาลชั้นต้นพิพากษา ให้จำเลยรื้อบ้านออกจากที่ดินพิพาท คำขอเรื่องค่าเสียหายให้ยก
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าคดีขาดอายุความมรดก พิพากษากลับให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คดีนี้ได้มีการชี้สองสถานและศาลได้จดประเด็นข้อพิพาทไว้ในรายงานกระบวนพิจารณา ซึ่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 183 บัญญัติไว้ว่า ศาลต้องพิจารณาและชี้ขาดไปตามประเด็นข้อพิพาทที่กำหนดไว้ คดีนี้ปรากฏว่าศาลชั้นต้นมิได้กำหนดเรื่องอายุความมรดกเป็นประเด็นข้อพิพาทไว้ และจำเลยก็มิได้โต้แย้งหรือคัดค้าน จึงไม่มีประเด็นข้อพิพาทในเรื่องอายุความมรดก อนึ่ง คำสั่งของศาลชั้นต้นที่กำหนดประเด็นข้อพิพาทและหน้าที่นำสืบเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา เมื่อจำเลยไม่ได้โต้แย้งคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่กำหนดประเด็นข้อพิพาทในเรื่องอายุความมรดกไว้ จำเลยย่อมหมดสิทธิอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 226 ที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยในเรื่องอายุความมรดก จึงเป็นการนอกประเด็นข้อพิพาทและไม่ชอบด้วยกระบวนวิธีพิจารณาแต่ข้อเท็จจริงในคดีนี้รับฟังเป็นยุติได้ว่า ที่ดินพิพาทเป็นทรัพย์มรดกของนางม้วนไม่ปรากฏว่านางม้วนทำพินัยกรรมยกให้ผู้ใด ที่ดินพิพาทจึงย่อมตกทอดแก่ทายาทโดยสิทธิตามกฎหมาย จำเลยเป็นบุตรทายาทโดยธรรมคนหนึ่งของนางม้วนย่อมมีสิทธิได้รับมรดกที่ดินพิพาทแปลงนี้ และมีส่วนเป็นเจ้าของรวมในที่ดินพิพาทแปลงนี้ด้วยตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1603 มาตรา 1629 และมาตรา 1745 จำเลยปลูกบ้านอยู่ในที่ดินพิพาทมาตั้งแต่เจ้ามรดกยังไม่ตายหลังจากเจ้ามรดกตายแล้ จำเลยยังคงอยู่ต่อมา การอยู่ของจำเลยต่อมานั้นจำเลยย่อมมีสิทธิที่จะอยู่ได้ในฐานะที่เป็นทายาทโดยสิทธิตามกฎหมายและในฐานะที่เป็นเจ้าของรวมคนหนึ่ง ซึ่งเจ้าของรวมคนหนึ่ง ๆ มีสิทธิใช้ทรัพย์สินได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1360 และการใช้ทรัพย์สินของจำเลยดังกล่าวหาได้ขัดต่อสิทธิแห่งเจ้าของรวมคนอื่น ๆ ไม่ โจทก์ในฐานะผู้จัดการมรดกจึงไม่มีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยให้ออกไปจากที่ดินพิพาทกรณีเป็นเรื่องอำนาจฟ้อง ศาลฎีกาหยิบยกขึ้นวินิจฉัยเองและยกฟ้องโจทก์เพราะเหตุนี้ได้
พิพากษายืน