คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 268/2501

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์กับจำเลยตกลงกันว่า จำเลยจะออกค่าเช่าห้องให้เท่าที่สำนักงานทรัพย์สินฯเรียกเก็บค่าเช่าจากโจทก์จำเลยได้ส่งค่าเช่าให้โจทก์แล้วโจทก์ส่งไปชำระให้สำนักงานทรัพย์สินฯ โจทก์ไม่ได้เรียกเก็บเงินกินเปล่าหรือค่าเช่าเพิ่มจากที่สำนักงานทรัพย์สินฯให้เช่าแต่อย่างใดเพราะโจทก์หวังได้รับผลในทางการค้าโดยจำเลยให้หุ้นในการค้าแก่โจทก์ 1 หุ้น โจทก์ไม่ต้องลงเงินทุนเข้าหุ้นเช่นนี้จะฟังว่าจำเลยอาศัยไม่ได้ต้องฟังว่าเป็นลักษณะเช่าทรัพย์เพราะการอาศัยนั้นไม่ต้องเสียค่าเช่า (อ้างฎีกาที่ 630/2491 และ 31/2494)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าโจทก์เช่าตึกแถว 8 ห้องของสำนักงานทรัพย์สิน ฯ โจทก์ได้ให้จำเลยกับบริวารอาศัย 6 ห้อง บัดนี้โจทก์ไม่ยินดีให้อาศัย จึงขอให้ขับไล่

จำเลยต่อสู้ว่าเช่าห้องพิพาทจากโจทก์

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวาร

จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว ตามคำขอของโจทก์ได้ความว่า โจทก์กับจำเลยตกลงกันว่า จำเลยจะออกค่าเช่าให้เท่าที่สำนักงานทรัพย์สิน ฯ เรียกเก็บค่าเช่าจากโจทก์ จำเลยได้ส่งค่าเช่าให้โจทก์แล้วโจทก์ส่งไปชำระให้สำนักงานทรัพย์สิน ฯ โจทก์ไม่ได้เรียกเก็บค่าแป๊ะเจี๊ยะหรือค่าเช่าเพิ่มจากที่สำนักงานทรัพย์สิน ฯ ให้เช่าแต่อย่างใดเพราะโจทก์หวังได้รับผลในทางการค้ามากกว่า โดยจำเลยให้หุ้นในการค้าแก่โจทก์ 1 หุ้น โจทก์ไม่ต้องลงเงินทุนเข้าหุ้น

ข้อเท็จจริงได้ความดังกล่าว ปัญหามีว่า จะเป็นการเช่าหรืออาศัย ศาลฎีกาเห็นว่า การอาศัยนั้น ไม่ต้องเสียค่าเช่าตามฎีกาที่ 630/2491 ส่วนการเช่านั้น ผู้เช่าจะต้องชำระค่าเช่าให้แก่ผู้ให้เช่าเป็นการตอบแทนในการที่ผู้เช่าได้ใช้หรือได้รับประโยชน์ในทรัพย์สินอย่างใดอย่างหนึ่งชั่วระยะเวลาจำกัด ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 537 คดีได้ความตามคำตัวโจทก์ดังนี้ จะฟังว่าเป็นการอาศัยหาได้ไม่ต้องฟังว่าเป็นลักษณะเช่าทรัพย์ ตามฎีกาที่ 31/2494

ศาลฎีกาพิพากษายืน

Share