แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกน้อยลงและรอการลงโทษเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
คำรับรองของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาว่า ‘จำเลยถูกพิพากษาลงโทษโดยกฎหมายซึ่งแก้ไขโทษขั้นต่ำให้สูงจากเดิมมากสมควรให้ศาลฎีกาวินิจฉัยเพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป จึงรับรองให้จำเลยทั้งหมดฎีกาได้’ เป็นคำรับรองที่ไม่ต้องด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 221 เพราะไม่ได้ความว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด และอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยร่วมกันตัดฟันไม้หวงห้าม แล้วทำการแปรรูปและมีไม้แปรรูปไว้ในครอบครองภายในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2494 มาตรา 11, 48, 73, 74, 74 ทวิ, 74 จัตวา ฯลฯ ริบของกลาง และจ่ายสินบนแก่ผู้นำจับ
จำเลยทั้งสิบเอ็ดให้การรับสารภาพ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามฟ้อง ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 ปี รวมจำคุกคนละ 6 ปี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกคนละ 3 ปี ริบของกลาง
จำเลยทั้งสิบเอ็ดอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยทั้งสิบเอ็ดฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาเป็นผู้รับรอง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษจำคุกน้อยกว่าที่ศาลล่างกำหนดและรอการลงโทษเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง คดีนี้ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษจำคุกคนละ 3 ปี จึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง เว้นแต่ผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาหรือลงชื่อในคำพิพากษาหรือทำความเห็นแย้งในศาลชั้นต้นหรือศาลอุทธรณ์พิเคราะห์เห็นว่า ข้อความที่ตัดสินเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุด และอนุญาตให้ฎีกา หรืออธิบดีกรมอัยการลงลายมือชื่อรับรองในฎีกาว่ามีเหตุอันควรที่ศาลสูงสุดจะได้วินิจฉัย ก็ให้รับฎีกานั้นไว้พิจารณาต่อไป ทั้งนี้ตามบทบัญญัติมาตรา 221 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ปรากฏจากคำรับรองของผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาว่า “จำเลยถูกพิพากษาลงโทษโดยกฎหมายซึ่งแก้ไขโทษขั้นต่ำให้สูงจากเดิมมากสมควรให้ศาลฎีกาวินิจฉัย เพื่อเป็นบรรทัดฐานต่อไป จึงรับรองให้จำเลยทั้งหมดฎีกาได้” พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คำรับรองดังกล่าวไม่ต้องด้วยมาตรา 221 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพราะไม่ได้ความว่าข้อความที่ตัดสินนั้นเป็นปัญหาสำคัญอันควรสู่ศาลสูงสุดและอนุญาตให้ฎีกา ศาลฎีกาจึงรับวินิจฉัยฎีกาของจำเลยให้ไม่ได้
พิพากษายกฎีกาจำเลย