แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 12 กันยายน ถึงวันที่ 22 กันยายน 2512จำเลยซื้อเชื่อสินค้าเก้าอี้ไปจากโจทก์ ขอให้ศาลบังคับจำเลยใช้เงินค่าซื้อสินค้าเชื่อ จำเลยให้การต่อสู้เพียงว่าตามวันเดือนปีตามฟ้อง จำเลยไม่ได้ซื้อเชื่อสินค้าเก้าอี้เป็นจำนวนเงินจากโจทก์ตามฟ้อง โจทก์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายผู้ต้องรับผิดเป็นสำคัญ โจทก์จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ จำเลยมิได้กล่าวแก้ไว้ว่าได้ชำระหนี้ราคาเก้าอี้ตามฟ้องให้โจทก์แล้ว จำเลยจึงจะฎีกาว่าได้ชำระหนี้ให้โจทก์แล้วไม่ได้เพราะจำเลยมิได้หยิบยกขึ้นว่ากล่าวไว้ในศาลชั้นต้น และมิใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 12 กันยายน 2512 ถึงวันที่ 22 กันยายน 2512 จำเลยซื้อเชื่อสินค้าไปจากโจทก์เป็นเงิน 9,825 บาทโจทก์ทวงถามจำเลยเพิกเฉย ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยใช้เงินค่าซื้อสินค้าเชื่อพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า ตามวันเดือนปีตามฟ้องโจทก์ จำเลยไม่ได้ซื้อเชื่อสินค้าเก้าอี้เป็นจำนวนเงินจากโจทก์ตามฟ้อง โจทก์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายผู้ต้องรับผิดเป็นสำคัญ โจทก์จะฟ้องร้องบังคับคดีไม่ได้
จำเลยเคยติดต่อซื้อเชื่อสินค้าเก้าอี้จากโจทก์หลายครั้ง ต่อมาจำเลยชำระเงินค่าซื้อสินค้าเชื่อให้โจทก์หมดสิ้นแล้ว
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยซื้อเชื่อสินค้าไปจากโจทก์ตามฟ้องและยังไม่ได้ชำระราคา พิพากษาให้จำเลยใช้เงินแก่โจทก์ตามฟ้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยให้การต่อสู้คดีในข้อ 1 ไว้ เพียงว่า “ตามวันเดือนปีตามฟ้องข้อ 2 ของโจทก์ จำเลยขอให้การปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้ซื้อเชื่อสินค้าเก้าอี้เป็นจำนวนเงินจากโจทก์ตามฟ้อง โจทก์ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อฝ่ายผู้ต้องรับผิดเป็นสำคัญโจทก์จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่…” เท่านั้น มิได้กล่าวแก้ไว้เลยว่าได้ชำระหนี้ราคาเก้าอี้ตามฟ้องให้โจทก์แล้ว ปัญหานี้จำเลยมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้น และมิใช่ปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 249 วรรคแรก
พิพากษายกฎีกาจำเลย