คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2616/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 โดยปกติคำขอให้พิจารณาใหม่จะต้องยื่นต่อศาลภายใน 15 วันนับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งให้แก่จำเลย แต่ถ้าศาลได้กำหนดให้ส่งคำบังคับโดยวิธีอื่นเช่น โดยปิดหมายหรือโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับ ก็จะต้องมีการปฏิบัติตามที่ศาลกำหนดเสียก่อน จะนับตั้งแต่วันที่ส่งคำบังคับให้แก่จำเลยทันทีไม่ได้ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่ศาลกำหนดเวลาให้จำเลยปฏิบัติตามคำบังคับ

ย่อยาว

คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้จำเลยทั้งสองชำระเงินค่าสินค้าพร้อมด้วยดอกเบี้ย จำเลยทั้งสองขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา ศาลชั้นต้นพิจารณาชี้ขาดตัดสินคดีไปฝ่ายเดียว โดยพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ใช้เงินให้โจทก์ตามฟ้อง โจทก์นำเจ้าพนักงานส่งคำบังคับให้จำเลยที่ ๑ เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๒๔ ต่อมาวันที่ ๘ มกราคม ๒๕๒๕ จำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ อ้างว่า ไม่จงใจขาดนัด เพราะไม่เคยได้รับสำเนาฟ้องและหมายเรียกเพิ่งทราบเมื่อได้รับคำบังคับเมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๒๔ และจำเลยมีทางชนะคดีโจทก์ได้ โจทก์ยื่นคำคัดค้านว่า จำเลยไม่ได้ยื่นคำร้องให้พิจารณาใหม่ภายใน ๑๕ วัน
ศาลชั้นต้นสั่งงดไต่สวน และมีคำสั่งให้ยกคำร้องของจำเลยที่ ๑
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ ฎีกาว่า ศาลออกคำบังคับกำหนดเวลาให้จำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาภายในหนึ่งเดือน ฉะนั้นจะเริ่มนับกำหนดเวลา ๑๕ วันได้ต่อเมื่อล่วงพ้นกำหนดหนึ่งเดือนไปแล้ว คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยจึงไม่เกินกำหนดเวลาตามกฎหมาย
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๒๐๘ จะเห็นได้ว่า โดยปกติคำขอให้พิจารณาใหม่จะต้องยื่นต่อศาลภายใน ๑๕ วันนับจากวันที่ได้ส่งคำบังคับตามคำพิพากษาหรือคำสั่งให้แก่จำเลย ถ้อยคำในตัวบทที่ว่า “แต่ถ้าศาลได้กำหนดการอย่างใด ๆเพื่อส่งคำบังคับเช่นว่านี้…. ” มีความหมายเพียงว่า ถ้าศาลกำหนดให้ส่งคำบังคับโดยวิธีอื่นเช่นโดยปิดหมาย หรือโดยทางไปรษณีย์ลงทะเบียนตอบรับก็จะต้องมีการปฏิบัติตามที่ศาลกำหนดเสียก่อน จะนับแต่วันที่ส่งคำบังคับให้แก่จำเลยทันทีไม่ได้ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับการที่ศาลกำหนดเวลาให้จำเลยปฏิบัติตามคำบังคับตามที่จำเลยฎีกา
พิพากษายืน

Share