คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2571/2533

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

เจ้าพนักงานศาลได้ปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องและหมายนัดสืบพยานโจทก์ที่ภูมิลำเนาของจำเลยโดยชอบ ในระหว่างนั้นจำเลยต้องโทษจำคุกอยู่ในเรือนจำแต่ภรรยาและบุตรของจำเลยคงอยู่ ณ ภูมิลำเนาของจำเลยน่าเชื่อว่าจำเลยได้ทราบถึงการถูกฟ้องและการส่งหมายนัดสืบพยานโจทก์ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยขาดนัดโดยจงใจและเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุอันสมควรตาม ป.วิ.พ. มาตรา 208,209.

ย่อยาว

จำเลยยื่นคำร้องขอให้พิจารณาใหม่ โดยอ้างว่าขณะที่เจ้าพนักงานศาลนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งให้แก่จำเลยที่บ้านนั้น จำเลยต้องโทษจำคุกตามคำพิพากษาของศาลอาญาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครจำเลยไม่ทราบเรื่องถูกฟ้องมาทราบเมื่อศาลได้มีคำพิพากษาและออกคำบังคับแล้ว จำเลยไม่จงใจขาดนัด ขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่
โจทก์ยื่นำคำร้องคัดค้านว่า เจ้าพนักงานศาลได้ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องตลอดจนหมายนัดสืบพยานโจทก์ให้แก่จำเลย ณ ภูมิลำเนาของจำเลยโดยชอบแล้วจำเลยมีเจตนาประวิงการบังคับคดีขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ว่า ได้มีการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องตลอดจนหมายนัดสืบพยานโจทก์ให้แก่จำเลยที่ลบ้านของจำเลยอันเป็นภูมิลำเนาของจำเลยตามสำเนาทะเบียนบ้านโดยชอบแล้ว และในระหว่างนั้นจำเลยต้องโทษจำคุกอยูในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาจำเลยว่าจำเลยขาดนัดโดยจงใจหรือมีเหตุอันสมควรหรือไม่ พิเคราะห์แล้วเห็นว่าเจ้าพนักงานศาลได้ปิดหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องตลอดจนหมายนัดสืบพยานโจทก์ไว้ที่บ้านของจำเลยอันเป็นภูมิลำเนาของจำเลย ซึ่งปรากฏว่าจำเลยมีภรรยาและลูก ๆ กับมีนายจเด็จลูกจ้างจำเลยอยู่ ณ ภูมิลำเนาของจำเลยซึ่งเปิดดำเนินกิจการโรงพิมพ์ ภรรยาและลูก ๆ ของจำเลยต้องดำเนินกิจการแทนในระหว่างจำเลยต้องขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ดังนั้นภรรยาและลูกของจำเลยน่าจะต้องได้พบเห็นหมายต่าง ๆ เหล่านั้น ทั้งยังได้ความจากคำเบิกความตอบคำถามค้านของจำเลยว่า ระหว่างถูกจำคุก ภรรยาจำเลยไปเยี่ยมเดือนละครั้ง ภรรยาจำเลยก็น่าจะแจ้งเรื่องที่จำเลยถูกฟ้องและการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องตลอดจนการส่งหมายนัดสืบพยานโจทก์ให้จำเลยทราบ ฉะนั้น ถือได้ว่าจำเลยน่าจะรู้ถึงการถูกฟ้องคดีนี้ตลอดจนการส่งหมายนัดสืบพยานโจทก์แล้ว กรณีถือได้ว่า จำเลยขาดนัดโดยจงใจและเป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุอันสมควรตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208, 209…”
พิพากษายืน.

Share