แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์อ้างว่า โจทก์ได้นำเงินค่าขึ้นศาลที่จะต้องชำระเพิ่มไปมอบให้แก่ทนายโจทก์ ทนายโจทก์ยืนยันว่าจะนำไปชำระต่อศาลภายในกำหนด แต่ทนายโจทก์กลับฉ้อฉลไม่นำเงินดังกล่าวไปชำระต่อศาลชั้นต้นโดยโจทก์ไม่ทราบข้ออ้างของโจทก์ แม้เป็นความจริงก็เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับทนายโจทก์ซึ่งมีความเกี่ยวพันกันในลักษณะของตัวการตัวแทน การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีในศาลของทนายโจทก์ย่อมผูกพันโจทก์ในฐานะตัวการ หากมีข้อผิดพลาดประการใดชอบที่โจทก์จะไปว่ากล่าวแก่ทนายโจทก์กันเอง กรณีหาเป็นเหตุสุดวิสัยแต่อย่างใดไม่ โจทก์จึงไม่อาจขอขยายระยะเวลาวางเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 เมื่อโจทก์ไม่วางเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มภายในกำหนด ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องในส่วนคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้อง
ย่อยาว
คดีนี้สืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินค่าจ้างทำเตาอบแห้ง รถเข็นชิ้นงาน และถาดแสตนเลส รวมเป็นเงิน 514,687.50 บาท และแก้ไขเพิ่มเติมฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงินจำนวน 2,167,401.50 บาท นับแต่วันถัดจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ จำเลยทั้งสองยื่นคำให้การและฟ้องแย้ง ทั้งจำเลยที่ 1 ขอให้เรียกนายชัชวาลย์ ธรรมานุวงศ์ เข้ามาเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นต้นอนุญาต
ในวันนัดสืบพยานศาลชั้นต้นตรวจพบว่าโจทก์ยังมิได้เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มเติมให้ถูกต้อง จึงมีคำสั่งให้โจทก์เสียค่าขึ้นศาลให้ครบถ้วนภายในกำหนดก่อนวันนัดหน้าและให้เลื่อนวันนัดสืบพยานโจทก์ออกไป เมื่อถึงวันนัด ปรากฏว่าโจทก์ยังไม่ได้เสียค่าขึ้นศาลให้ครบถ้วนก่อนกำหนดวันนัดตามที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่ง ศาลชั้นต้นสอบทนายโจทก์แล้วแถลงว่าไม่สามารถติดต่อตัวโจทก์ได้ จึงขอขยายระยะเวลาการวางเงินค่าขึ้นศาลไปภายในนัดหน้า ทนายจำเลยที่ 1 แถลงคัดค้าน ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเห็นว่าโจทก์มิได้ยื่นคำร้องขอขยายระยะเวลาในการวางเงินต่อศาลก่อนกำหนด และกรณีไม่มีเหตุสุดวิสัยตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตให้โจทก์ขยายระยะเวลาในการวางเงินค่าขึ้นศาล และถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้องในส่วนคำร้องขอแก้ไขเพิ่มเติมคำฟ้อง จำหน่ายคดีเฉพาะส่วนที่โจทก์ขอแก้ไขเพิ่มเติมทุนทรัพย์เสีย
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่โจทก์อ้างว่าโจทก์มิได้จงใจขัดคำสั่งศาลชั้นต้นที่ให้นำเงินค่าขึ้นศาลเพิ่มมาวางภายในกำหนด ทั้งนี้เพราะโจทก์ได้นำเงินค่าขึ้นศาลที่จะต้องชำระเพิ่มไปมอบให้แก่ทนายโจทก์ และทนายโจทก์ยืนยันว่าจะนำไปชำระต่อศาลภายในกำหนด แต่ทนายโจทก์กลับฉ้อฉลโจทก์ไม่นำเงินดังกล่าวไปชำระต่อศาลชั้นต้นโดยโจทก์ไม่ทราบเรื่องแต่อย่างใด เพิ่งมาทราบเมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ทิ้งฟ้องในส่วนคำร้องขอเพิ่มเติมคำฟ้องไปแล้ว การที่โจทก์ไม่ได้นำเงินค่าขึ้นศาลที่ต้องชำระเพิ่มมาวางศาลภายในกำหนดจึงเป็นการกระทำที่มิได้มีเจตนาและเป็นเหตุสุดวิสัยนั้น ข้ออ้างดังกล่าวนอกจากโจทก์เพิ่งจะยกขึ้นมากล่าวในชั้นอุทธรณ์และฎีกาแล้ว แม้เป็นความจริงดังโจทก์อ้างก็เป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับทนายโจทก์ซึ่งมีความเกี่ยวพันกันในลักษณะของตัวการตัวแทน ดังนั้น การดำเนินกระบวนพิจารณาคดีในศาลของทนายโจทก์ย่อมผูกพันโจทก์ในฐานะตัวการ หากมีข้อผิดพลาดประการใดชอบที่โจทก์ในฐานะตัวการจะไปว่ากล่าวแก่ทนายโจทก์กันเอง กรณีหาเป็นเหตุสุดวิสัยแต่อย่างใดไม่ เมื่อระยะเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนดให้โจทก์นำค่าขึ้นศาลมาชำระเพิ่มได้ล่วงพ้นไปแล้ว โจทก์จึงไม่อาจขอขยายระยะเวลาดังกล่าวได้ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ.