คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2549/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

ป. ผู้จัดการของสมาคมผู้ร้อง ย่อมเป็นผู้แทนตามกฎหมายของนิติบุคคลผู้ร้อง ป. มอบหมายให้ พ. รับผิดชอบกิจการของผู้ร้องซึ่งมีโต๊ะบิลเลียดไว้บริการสมาชิกแทน ย่อมถือได้ว่า พ. เป็นผู้แทนอื่น ๆ ของนิติบุคคลผู้ร้องด้วย และเมื่อ พ. ได้ว่าจ้างคนช่วยดูแลซึ่งมีหน้าที่บริการในสถานประกอบการรวมทั้งเก็บค่าเกมอันเป็นผลประโยชน์ของผู้ร้อง ลูกจ้างที่ช่วยดูแลย่อมเป็นผู้แทนอื่น ๆ ของผู้ร้องด้วย ดังนั้น แม้ในขณะเกิดเหตุ พ. จะไม่ได้อยู่ด้วย แต่การที่ลูกจ้างของผู้ร้องปล่อยให้มีการเล่นการพนันกันโดยเปิดเผยไม่ห้ามปราม จึงถือได้ว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดด้วย

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องจำเลยว่า ร่วมกันเล่นการพนันบิลเลียด ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติการพนันฯ และริบลูกบิลเลียด3 ลูก โต๊ะบิลเลียด 1 โต๊ะ ไม้คิว 1 อัน และเงินสด 40 บาทของกลางอันเป็นอุปกรณ์และทรัพย์สินที่ใช้ในการเล่นการพนันจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจำเลยทั้งสองคนละ 300 บาท และริบของกลาง
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ของกลางเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องมิได้รู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดของจำเลยทั้งสอง ขอให้คืนของกลางแก่ผู้ร้อง
โจทก์คัดค้านว่า ผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำความผิดไม่มีสิทธิขอของกลางคืน
ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “พิเคราะห์แล้ว มีปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่า ผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดหรือไม่ข้อนี้ผู้ร้องฎีกาว่า นายประเสริฐ ภูมิภมร เป็นผู้จัดการของผู้ร้องและมีนายพิสุทธิ์ ภูมิภมร เป็นผู้ได้รับมอบหมายจากผู้จัดการให้ดูแลโต๊ะบิลเลียดของผู้ร้อง ในสถานประกอบการของผู้ร้องมีป้ายห้ามเล่นการพนันปิดไว้ให้เห็นอย่างเด่นชัด ในวันเกิดเหตุทั้งนายประเสริฐและนายพิสุทธิ์ไม่ได้อยู่ในสถานประกอบการของผู้ร้อง มีเพียงลูกจ้างอยู่เฝ้าซึ่งมิใช่ผู้แทนของผู้ร้องผู้ร้องจึงไม่รู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิด ศาลฎีกาเห็นว่านายประเสริฐเป็นผู้จัดการของผู้ร้องย่อมเป็นผู้แทนตามกฎหมายของนิติบุคคลผู้ร้อง การที่นายประเสริฐมอบหมายให้นายพิสุทธิ์รับผิดชอบกิจการแทนย่อมถือได้ว่าเป็นผู้แทนอื่น ๆ ของนิติบุคคลผู้ร้องด้วย เมื่อข้อเท็จจริงได้ความจากคำเบิกความของนายพิสุทธิ์ว่าได้จ้างคนช่วยดูแลอีก 3 คน ซึ่งบุคคลเหล่านั้นมีหน้าที่บริการในสถานประกอบการรวมทั้งเก็บค่าเกมอันเป็นผลประโยชน์ของผู้ร้องแม้ในขณะเกิดเหตุนายพิสุทธิ์จะไม่ได้อยู่ด้วยแต่ลูกจ้างที่ช่วยดูแลย่อมเป็นผู้แทนอื่น ๆ ของผู้ร้องด้วยการที่ลูกจ้างของผู้ร้องซึ่งถือว่าเป็นผู้แทนอื่น ๆ ของผู้ร้องปล่อยให้มีการเล่นการพนันกันโดยเปิดเผยโดยไม่ห้ามปราม จึงถือได้ว่าผู้ร้องรู้เห็นเป็นใจในการกระทำผิดด้วย
พิพากษายืน

Share