แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
สัญญาที่ผู้ตายต้องไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้แก่ผู้ร้องหลังจากออกโฉนดที่ดินแล้วเป็นเพียงสัญญาจะซื้อขาย หากที่ดินของผู้ตายต้องห้ามไม่ให้โอนตามประมวลกฎหมายที่ดิน ทำให้ผู้ตายหลุดพ้นจากการชำระหนี้ ผู้ตายก็หามีสิทธิได้รับชำระราคาที่ดินตอบแทนไม่ จึงต้องคืนเงินราคาที่ดินแก่ผู้ร้อง เมื่อผู้ตายยังไม่ได้คืนเงิน ย่อมถือได้ว่าผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ผู้มีส่วนได้เสียและมีสิทธิร้องขอให้ตั้งตนผู้จัดการมรดกได้
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอว่า ผู้ร้องเป็นผู้ซื้อที่ดินตามโฉนดเลขที่ 6582 ตำบลป่าไผ่อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน จากนายทอง สมบูรณ์ และผู้ร้องเข้าครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวแล้วแต่ยังมิได้จดทะเบียนโอน นายทองถึงแก่ความตายเสียก่อนนายทองไม่มีทายาทที่จะมาจัดการมรดก ผู้ร้องจึงเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของนายทอง ขอให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการของผู้ตายเฉพาะเกี่ยวกับที่ดินโฉนดเลขที่ 6582 ตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
ศาลชั้นต้นประกาศนัดไต่สวนแล้วไม่มีผู้คัดค้าน
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้ร้องมิได้เป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกหรือเป็นทายาทของผู้ตาย จึงไม่อาจร้องขอตั้งผู้จัดการมรดกรายนี้ มีคำสั่งให้ยกคำร้องขอ
ผู้ร้องอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายืน
ผู้ร้องฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ” ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 5โดยผู้ร้องไม่ได้ฎีกาโต้แย้งว่า เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2533 ผู้ร้องซื้อที่ดินตามโฉนดเลขที่ 6582 ตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน จากนายทอง สมบูรณ์ในราคา 101,000 บาท โดยผู้ร้องชำระราคาที่ดินและเข้าอยู่อาศัยทำประโยชน์นับแต่วันทำสัญญาตามสัญญาการซื้อขายเอกสารหมาย ร.1 และภาพถ่ายหมาย ร.3 ขณะทำสัญญาซื้อขายนายทองกำลังดำเนินการขอออกโฉนดที่ดินอยู่โดยนายทองตกลงจะโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ขายให้ภายหลัง แต่ครั้งทางราชการออกโฉนดที่ดินให้แล้วเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2534 นายทองไม่สามารถจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้ผู้ร้องได้เพราะที่ดินดังกล่าวตกอยู่ในบังคับห้ามโอนภายใน 10ปี นับแต่วันที่ 31 มีนาคม 2534 ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ตามสำเนาโฉนดที่ดินเอกสารหมาย ร.4 ต่อมาวันที่ 29 สิงหาคม 2536 นายทองถึงแก่ความตายด้วยโรคระบบหัวใจล้มเหลว ตามมรณบัตรเอกสารหมาย ร.5 นายทองไม่มีทายาทที่จะมาขอจัดการมรดกและไม่ได้ทำพินัยกรรมไว้ ภายหลังจากที่นายทองถึงแก่ความตาย ผู้ร้องเคยไปติดต่อเพื่อขอจดทะเบียนรับโอนที่ดินดังกล่าวแต่เจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินการให้แจ้งว่าต้องให้ศาลมีคำสั่งตั้งผู้จัดการมรดกเสียก่อนผู้ร้องมิได้เป็นบุคคลวิกลจริต หรือเป็นบุคคลที่ศาลสั่งให้เป็นผู้เสมือนไร้ความสามารถหรือคนล้มละลาย มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของผู้ร้องว่าผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียและสมควรเป็นผู้จัดการมรดกของนายทอง สมบูรณ์ ผู้ตายหรือไม่สำหรับปัญหาที่ว่าผู้ร้องเป็นผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์มรดกของผู้ตายหรือไม่ เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังเป็นยุติว่า การซื้อขายที่ดินระหว่างผู้ร้องกับผู้ตายตามสัญญาการซื้อขายเอกสารหมาย ร.1 ผู้ตายจะต้องไปจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ร้องหลังจากออกโฉนดที่ดินแล้วสัญญาซื้อขายเอกสารหมาย ร.1 จึงเป็นเพียงสัญญาจะซื้อขายดังที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 วินิจฉัย อย่างไรก็ดีหากการชำระหนี้ตามสัญญาจะซื้อขายที่ดินดังกล่าวตกเป็นพ้นวิสัย เนื่องจากที่ดินของผู้ตายที่ออกโฉนดในภายหลังต้องห้ามไม่ให้โอนภายใน 10 ปีนับแต่วันที่ 31 มีนาคม 2534 ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ทำให้ผู้ตายหลุดพ้นจากการชำระหนี้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 219 วรรคหนึ่งไม่ต้องไปจดทะเบียนโอนที่ดินให้แก่ผู้ร้องตามคำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์ภาค 5ศาลฎีกาก็เห็นว่า ผู้ตายหามีสิทธิได้รับชำระราคาที่ดินตอบแทนไม่ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 372 วรรคหนึ่ง ผู้ตายจึงต้องคืนเงินราคาที่ดินให้แก่ผู้ร้อง เมื่อผู้ตายยังมิได้คืนเงิน ย่อมถือได้ว่าผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าหนี้เป็นผู้มีส่วนได้เสียและมีสิทธิร้องต่อศาลขอให้ตั้งผู้จัดการมรดกได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1713
ส่วนปัญหาที่ว่า สมควรตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายหรือไม่ เห็นว่าเมื่อผู้ร้องเป็นเจ้าหนี้ผู้มีส่วนได้เสียในกองมรดกของผู้ตาย และกรณีมีเหตุจำเป็นที่ต้องมาร้องขอดังได้วินิจฉัยมาแล้ว ประกอบกับผู้ร้องไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ไม่เคยถูกศาลสั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถหรือเป็นคนล้มละลายมาก่อน ทั้งไม่มีผู้ใดคัดค้านจึงเห็นสมควรตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย และเนื่องจากเงินค่าที่ดินที่ผู้ตายต้องคืนให้แก่ผู้ร้องสืบเนื่องมาจากการซื้อขายที่ดินดังกล่าว ฉะนั้น การตั้งผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตาย จึงไม่เกินคำขอของผู้ร้องที่ศาลอุทธรณ์ภาค 5 พิพากษายกคำร้องขอนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย ฎีกาของผู้ร้องฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้ตั้งนายทวี ปินตาชัย ผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกของนายทองสมบูรณ์ ผู้ตาย ให้ผู้ร้องมีสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมาย ให้แจ้งคำสั่งนี้ให้พนักงานอัยการทราบด้วย