คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2524/2517

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ส่งสำเนาคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาของโจทก์ให้จำเลยและนัดพร้อม เป็นคำสั่งก่อนรับฎีกาของโจทก์ ไม่อยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 174(1) เมื่อปรากฏว่าโจทก์ยังมิได้นำส่ง ศาลชั้นต้นมีอำนาจกำหนดเวลา ให้นำส่งได้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 174(1)หมายความเฉพาะการที่โจทก์เพิกเฉยไม่ร้องขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ส่งหมายเรียกให้แก้คดีแก่จำเลยในการดำเนินกระบวนพิจารณา ในศาลชั้นต้นเท่านั้น จะนำมาใช้ในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะในชั้นฎีกา ไม่มีการออกหมายเรียกให้จำเลยแก้คดี ดังที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งสองและจำเลยเป็นหลานของนางเกษร คงพันธ์เมื่อนางเกษร คงพันธ์ ถึงแก่กรรม มีทรัพย์สินเป็นมรดกตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องจำเลยได้ยื่นคำร้องขอรับมรดกที่สำนักงานที่ดินจังหวัดนครปฐม อ้างว่านางเกษรคงพันธ์ ทำพินัยกรรมมอบทรัพย์สินให้จำเลย พินัยกรรมดังกล่าวเป็นพินัยกรรมปลอมจำเลยทำพินัยกรรมขึ้นเอง ขอให้ศาลพิพากษาว่าพินัยกรรมที่จำเลยอ้างเป็นพินัยกรรมปลอม ให้จำเลยแบ่งทรัพย์เฉพาะส่วนของโจทก์ทั้งสองให้โจทก์
จำเลยให้การว่านางเกษร คงพันธ์ ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้จำเลยโดยชอบด้วยกฎหมาย โจทก์ทั้งสองไม่มีสิทธิที่จะรับมรดกตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วเชื่อว่านางเกษร คงพันธ์ ทำพินัยกรรมยกทรัพย์ให้จำเลยจริง พิพากษายกฟ้อง
โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ทั้งสองฎีกา และยื่นคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาในชั้นฎีกาอีกศาลชั้นต้นสั่งว่า สำเนาให้จำเลยพร้อมสำเนาฎีกานัดพร้อม หากจะคัดค้านให้นำมายื่นวันนัดพร้อม ถ้าไม่คัดค้านจะถือว่า โจทก์ยังคงเป็นคนยากจนอยู่ครั้นถึงวันนัด ปรากฏว่าจำเลยยังไม่ทราบวันนัดเพราะโจทก์ไม่นำส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องของโจทก์
ศาลชั้นต้นจึงให้เลื่อนวันนัดพร้อมไปให้โจทก์นำส่งหมายนัดและสำเนาคำร้องให้จำเลยภายใน ๑๐ วัน มิฉะนั้นจะถือว่าทิ้งฟ้อง โจทก์นำส่งในกำหนดเวลาที่ศาลชั้นต้นสั่ง ในวันนัดพร้อมจำเลยยื่นคำร้องว่าโจทก์มิได้นำส่งสำเนาฎีกา และคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาให้จำเลยเป็นเวลาเกินกว่า ๑๕ วันเป็นการทิ้งฟ้องฎีกาและทิ้งคำร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา ขอให้ศาลสั่งจำหน่ายฟ้องฎีกา และคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาของโจทก์ ศาลชั้นต้นสั่งว่าโจทก์นำส่งภายในกำหนดดังกล่าวแล้วจึงไม่ถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ให้ส่งสำเนาคำร้องขอฎีกาอย่างคนอนาถาของโจทก์ให้จำเลยและนัดพร้อมนั้น เป็นคำสั่งก่อนสั่งรับฎีกาของโจทก์ไม่อยู่ในบังคับของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๔(๑) เมื่อปรากฏว่าโจทก์ยังมิได้นำส่งศาลชั้นต้นมีอำนาจสั่งกำหนดเวลาให้นำส่งได้ ทั้งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๗๔(๑) ที่จำเลยอ้างก็หมายความเฉพาะการที่โจทก์เพิกเฉยไม่ร้องขอต่อพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้ส่งหมายเรียกให้แก้คดีแก่จำเลยในการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลชั้นต้นเท่านั้น จะนำมาใช้ในชั้นฎีกาไม่ได้ เพราะในชั้นฎีกาไม่มีการออกหมายเรียกให้จำเลยแก้คดีดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๗๓ และวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า พินัยกรรมเอกสารหมาย ล.๒ เป็นพินัยกรรมอันแท้จริง
พิพากษายืน

Share