คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2504/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยร่วมกับพวกที่หลบหนี ใช้ปืนยิงผู้ตายโดยเจตนาฆ่า แม้จำเลยจะให้การรับสารภาพตามฟ้องก็อ้างตนเองเข้าเบิกความเป็นพยานว่าไม่ได้กระทำผิด โดยไม่ต้องถอนคำให้การเดิมได้
ผู้ตายเป็นหลานของ ท. ท. กับสามีไปทวงหนี้จากสามีจำเลยเกิดทะเลาะกันจนเกือบต่อสู้กัน ผู้ตายเข้าห้ามและว่าให้ไปพูดกันที่บ้านสามีจำเลย เมื่อไปพูดกันก็ทะเลาะกันอีกผู้ตายเข้าห้ามไว้อีกเมื่อผู้ตายกลับบ้านแล้ว หลังจากนั้น 1 ชั่วโมง จำเลยกับสามีและชายอีกคนหนึ่งมาร้องถามหาผู้ตาย พอผู้ตายออกมา ชายที่มากับจำเลยถามว่าคนไหนคือผู้ตาย จำเลยชี้มือบอก ชายคนนั้นก็ยิงผู้ตาย แล้วจำเลยกับพวกก็วิ่งหนีไปทางเดียวกัน ถือว่าจำเลยร่วมกระทำผิดฐานฆ่าผู้ตาย

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่หลบหนี ได้บังอาจร่วมกันฆ่านายวีระ จันทร์สอน โดยจำเลยกับพวกร่วมกันใช้ปืนเป็นอาวุธ ยิงทำร้ายนายวีระ จันทร์สอน โดยเจตนาฆ่า นายวีระ จันทร์สอน ได้ถึงแก่ความตายในขณะเกิดเหตุนั้นเอง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๓
จำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง โจทก์นำสืบพยานประกอบคำรับสารภาพจำเลยอ้างตนเองเข้าเบิกความเป็นพยาน โดยมิได้ขอให้การใหม่แต่อย่างใด ว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิดดังฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ให้วางโทษจำคุก ๑๕ ปี คำให้การของจำเลยมีลักษณะเป็นทำนองที่ให้ความสะดวกในการพิจารณาของศาลอยู่บ้าง นับเป็นเหตุบรรเทาโทษตามมาตรา ๗๘ จึงลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลย ๑๐ ปี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ยกฟ้องโจทก์
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วเห็นพ้องกับคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้น สำหรับข้อสมคบกันยิงผู้ตายนั้น เห็นว่า ผู้ตายเป็นหลานของนายทองปานพยานโจทก์ ก่อนเกิดเหตุนางทองปานกับสามีไปทวงหนี้จากสามีจำเลย เกิดทะเลาะกันจนเกือบต่อสู้กัน ผู้ตายเข้าห้าม และว่าให้ไปพูดกับสามีจำเลย เมื่อไปพูดกันก็ทะเลาะกันอีก จำเลยเข้าห้ามไว้เมื่อผู้ตายกลับบ้านแล้ว หลังจากนั้น ๑ ชั่วโมง จำเลยกับสามีและชายอีกคนหนึ่งมาร้องถามหาผู้ตาย ครั้นผู้ตายซึ่งขณะนั้นนุ่งโสร่งไม่ใส่เสื้อเดินออกมาชายคนที่มากับจำเลยถามว่า “คนไหนชื่อระ” จำเลยก็ชี้มือไปที่ผู้ตายและพูดว่า “คนที่ไม่ได้ใส่เสื้อ” ชายคนนั้นก็ยิงผู้ตายทันที แล้วจำเลยกับพวกดังกล่าวก็วิ่งหนีไปทางเดียวกันนั้น ฟังได้ว่าจำเลยได้ร่วมกระทำผิดด้วยกันกับชายผู้นั้น ฐานฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๓
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share