คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2474/2530

แหล่งที่มา : ADMIN

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองซึ่งเป็นลูกจ้างให้ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ผู้เป็นนายจ้าง จำเลยที่ 2 ไม่ได้ให้การต่อสู้คดีว่าคำฟ้องโจทก์เกี่ยวกับค่าเสียหายเคลือบคลุม และคดีโจทก์ขาดอายุความดังเช่นจำเลยที่ 1 ดังนี้จำเลยที่ 2 จึงไม่มีสิทธิที่จะยกประเด็นดังกล่าวขึ้นอุทธรณ์ เพราะนอกเหนือจากคำให้การของตน.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างโจทก์ประจำหน่วยวิเคราะห์ข้อมูล มีหน้าที่รับเทปข้อมูลในทางไกลจากนครหลวงและภูมิภาคส่งห้องเครื่องคอมพิวเตอร์ จำเลยที่ 2 เป็นลูกจ้างของโจทก์ประจำหน่วยบริการเครื่อง ทำหน้าที่เกี่ยวกับการปฏิบัติการเครื่องคอมพิวเตอร์ และงานเกี่ยวกับการจัดทำใบเสร็จ (บิล)เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2527 จำเลยที่ 1 รับเทปข้อมูลทางไกลจากเจ้าหน้าที่ชุมสายนครราชสีมานำมาส่งจำนวน 1 ม้วน จำเลยที่ 1ทำงานผิดพลาดทำให้เกิดความสับสนและหลงผิด เมื่อจำเลยที่ 2รับเทปมาก็มิได้ตรวจสอบ ได้นำเทปเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อถ่ายบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการโทรศัพท์ทางไกลที่บันทึกไว้ออกไป 80 เปอร์เซ็นต์ของข้อมูลทั้งหมด ทำให้ไม่สามารถนำไปจัดทำใบเสร็จเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้บริการโทรศัพท์ทางไกลได้ ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย
จำเลยที่ 1 ให้การว่าเหตุเกิดเพราะความประมาทของจำเลยที่ 2แต่ผู้เดียว คดีของโจทก์จึงขาดอายุความคำบรรยายฟ้องของโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับค่าเสียหายเคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 ให้การว่า การที่เทปตัวจริงถูกลบทิ้งไปบางส่วนนั้นมิใช่ความผิดของจำเลยที่ 2 ข้อมูลที่โจทก์อ้างว่าหายไป 80 เปอร์เซ็นต์รับฟังไม่ได้ โจทก์มิได้เสียหายคิดเป็นเงิน1,600,000 บาท โจทก์ไม่สามารถคำนวณตัวเลขค่าเสียหายที่แน่นอนได้ เพราะความบกพร่องของโจทก์ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยที่ 2 ชำระค่าเสียหายแก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ย จำเลยที่ 1 ให้ยกฟ้อง
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานวินิจฉัยว่า ที่จำเลยที่ 2 อุทธรณ์ว่าโจทก์เป็นองค์การที่ตั้งมานานและมีการเก็บค่าโทรศัพท์ทางไกลมาโดยตลอดหากต้องการให้จำเลยที่ 2 ชดใช้ค่าเสียหายก็จะต้องระบุให้ชัดแจ้งว่าค่าเสียหายเช่นนี้คิดจากอะไรเป็นมูลฐาน การที่โจทก์บรรยายฟ้องว่าข้อมูลถูกลบทิ้งไป 80เปอร์เซ็นต์ และเรียกค่าเสียหายมา 1,600,000 บาทโดยไม่ทราบว่าเสียหายหรือไม่ จึงเป็นคำฟ้องที่เคลือบคลุม กับที่จำเลยที่ 2 อุทธรณ์อีกว่า คดีนี้ต้องถือว่าโจทก์ทราบถึงวันกระทำละเมิดตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2527 อายุความเรียกร้องจึงต้องนับแต่วันดังกล่าว การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องในวันที่26 เมษายน 2528 เกินกว่า 1 ปี คดีโจทก์จึงขาดอายุความนั้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยที่ 2 ไม่ได้ให้การต่อสู้คดีว่าคำฟ้องโจทก์เกี่ยวกับค่าเสียหายเคลือบคลุมและคดีโจทก์ขาดอายุความ ดังเช่นจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 2 จึงไม่มีสิทธิที่จะยกประเด็นดังกล่าวขึ้นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา เพราะเป็นข้ออุทธรณ์ที่นอกเหนือจากคำให้การของจำเลยที่ 2 ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายกอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2.

Share