คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 247/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยทำผิด วันที่ 29 เมษายน 2490 เมื่อสืบพะยานโจทก์เสร็จแล้ว ทนายจำเลยแถลงว่าวันที่โจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องนั้น ต่างกับคำเบิกความของพะยานโจทก์ โจทก์จึงรู้สึกว่าฟ้องผิดวัน ได้ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องว่าความจริงจำเลยกระทำผิดวันที่ 27 เมษายน 2490 ดังนี้ เมื่อตามพฤตติการณ์แห่งคดีแสดงชัดอยู่ว่าจำเลยให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ โดยถือเอาวันที่โจทก์กล่าวหาตามฟ้องเดิมเป็นหลักสำคัญในการต่อสู้คดีจึงเป็นเรื่องที่ทำให้จำเลยเสียเปรียบโดยหลงข้อต่อสู้คดี ศาลจะอนุญาตให้แก้ฟ้องไม่ได้เพราะเป็นการต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา 164.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม ก.ม.ลักษณะอาญา มาตรา ๑๓๖,๑๔๒,๑๔๕,๒๗๐,๓๐๓ จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นสืบพะยานโจทก์เสร็จแล้ว ทนายจำเลยแถลงว่าวันที่โจทก์หาว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องนั้น ต่างกับคำเบิกความของพะยานโจทก์ โจทก์จึงรู้สึกว่าฟ้องผิดวัน ได้ยื่นคำร้องขอแก้ฟ้องอ้างว่าหาว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ ๒๙ เมษายน ๒๔๙๐ นั้นผิดไป ความจริงจำเลยกระทำผิดในวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๔๙๐ ทั้งนี้เป็นโดยในชั้นสอบสวน พะยานใหการว่าจำเลยกระทำผิดวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๖ ซึ่งความจริงตรงกับวันที่ ๒๗ เมษายน แต่เจ้าพนักงานวงเล็บไว้ว่าตรงกับวันที่ ๒๙ เมษายน เป็นเหตุให้โจทก์เข้าใจผิด จึงขอแก้ฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดวันที่ ๒๗ เมษายน ๒๔๙๐ จำเลยยื่นคำร้องคัดค้านว่าไม่ควรอนุญาตเพราะจำเลยหลงข้อต่อสู้และทำให้จำเลยเสียเปรียบ ทั้งโจทก์เพิ่งมาขอแก้ต่อเมื่อเสร็จสืบพะยานโจทก์ ศาลชั้นต้นอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้อง แล้วสืบพะยานต่อไปจนเสร็จสำนวนแล้วพิพากษาลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๓๖ ก.ม.ลักษณะอาญา ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา,
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามพฤตติการณ์ในคดีแสดงชัดว่าจำเลยให้การปฏิเสธฟ้องโจทก์ โดยถือเอาวันที่โจทก์กล่าวหาตามฟ้องเดิมเป็นหลักสำคัญในการต่อสู้คดี ดังจะเห็นได้ว่าทนายจำเลยได้แถลงให้ศาลทราบว่าโจทก์นำสืบผิดวัน และจำเลยได้คัดค้านคำร้องขอแก้ฟ้องของโจทก์โดยอ้างว่า จำเลยได้ถือเอาวันที่ ๒๙ เมษายนเป็นวันที่จำเลยถูกหาว่ากระทำผิดตั้งแต่ชั้นสอบสวนตลอดมาจนชั้นศาล ถ้าศาลให้โจทก์แก้ฟ้องได้ ก็จะทำให้จำเลยเสียเปรียบ โดยหลงข้อต่อสู้คดีตามวันที่โจทก์กล่าวหาในฟ้องเดิม ศาลอนุญาตให้แก้ไม่ได้เพราะต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญา มาตรา ๑๖๔
พิพากษายืน

Share