แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การใช้บทกฎหมายที่อาญาหนักลงโทษความผิดที่ละเมิดกฎหมายหลายบทนั้นต้องถืออัตราโทษจำคุกสูงสุดที่ศาลอาจวางกำหนดลงโทษแก่จำเลยสำหรับความผิดที่จำเลยกระทำลงได้นั้นเป็นสำคัญ มิใช่ถืออัตราโทษปรับมากน้อยหรือต้องลงโทษทั้งจำทั้งปรับ
ตาม พระราชบัญญัติศุลกากรนั้น ความผิดฐานพยายามมีโทษเท่ากับความผิดสำเร็จ เมื่อความผิดของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามพระราชบัญญัติศุลกากรจึงเป็นบทหนักกว่า พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกฯ
ประชุมใหญ่ครั้งที่ 5/2497
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยกับพวกได้บังอาจสมคบกันพยายามนำสินค้าและสิ่งของต่าง ๆ ท้ายฟ้องซึ่งเป็นของต้องห้ามมิให้นำออกนอกราชอาณาจักร ออกไปประเทศพม่านอกราชอาณาจักร เจ้าพนักงานจับจำเลยได้พร้อมของกลางเสียก่อน จึงนำออกไปไม่สำเร็จ ขอให้ลงโทษ
จำเลยทั้ง 2 ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นชี้ขาดว่าจำเลยได้กระทำผิดจริงดังข้อหา และพิพากษาว่าการกระทำผิดของจำเลยเป็นกรรมเดียว แต่ผิดกฎหมาย 2 บทให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้าบางอย่าง (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 ซึ่งเป็นบทหนัก ลดฐานพยายาม 1 ใน 3
จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่าจำเลยกระทำผิดจริง แต่เห็นว่าตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 นั้น ความผิดฐานพยายามและความผิดสำเร็จมีอัตราโทษเดียวกัน ฉะนั้น พระราชบัญญัติศุลกากรจึงเป็นบทหนักกว่า พระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกฯ และสินบนนำจับก็ไม่มี พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรพ.ศ. 2469 มาตรา 27 และพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 11) มาตรา 3 และปรับ 4 เท่าราคาของ ลดฐานปรานีตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 59 เสีย 1 ใน 3 นอกจากนี้ยืน
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกฯ(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 ซึ่งเป็นบทหนักกว่า
ศาลฎีกาได้ประชุมปรึกษาในที่ประชุมใหญ่และลงมติว่าการกระทำของจำเลยต้องด้วยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 70 ต้องถืออัตราโทษจำคุกสูงสุดที่ศาลอาจวางกำหนดโทษแก่จำเลยสำหรับความผิดที่จำเลยกระทำลงได้นั้นเป็นสำคัญ มิใช่ถืออัตราโทษปรับมากน้อยหรือต้องลงโทษทั้งจำทั้งปรับ
ความผิดของจำเลยเป็นเรื่องพยายามและละเมิดกฎหมาย 2 บทถ้าจะลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติควบคุมการส่งออกไปนอกฯ (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2490 มาตรา 3 ก็จะต้องประกอบด้วยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 60ซึ่งลงโทษได้เพียง 2 ใน 3 ส่วนของไม่เกิน 10 ปี (6 ปี 8 เดือน) ส่วนความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 บัญญัติไว้เป็นพิเศษว่าแม้เพียงพยายามก็ต้องลงโทษเท่ากับความผิดสำเร็จซึ่งศาลอาจวางโทษได้ถึง10 ปี เห็นได้ชัดว่าอัตราโทษสูงสุดตาม พระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2490 มาตรา 3 นั้นเป็นบทกฎหมายที่มีอาญาหนักกว่า
พิพากษายืน