แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องบังคับจำเลยให้ใช้เงินทดรองที่โจทก์ออกแทนจำเลยไป หากจำเลยเห็นว่าข้ออ้างตามฟ้องโจทก์เป็นเรื่องการฟ้องบังคับตามสัญญากู้ยืมเงินจำเลยก็สามารถยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การตั้งแต่ศาลชั้นต้น จำเลยให้การเพียงว่าโจทก์มิได้ออกเงินทดรองแทนจำเลย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ กรณีจึงมิใช่เป็นเรื่องที่จำเลยไม่สามารถแยกปัญหานี้ขึ้นอ้างในศาลชั้นต้น เนื่องจากพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินทดรองที่โจทก์จ่ายแทนจำเลยไปเป็นค่าหุ้นบริษัทคอสโมปิโตร จำกัด จำนวนเงิน 60,000 บาทพร้อมดอกเบี้ย
จำเลยให้การว่า ผู้เริ่มกิจการของบริษัทคอสโมปิโตร จำกัด เห็นว่าจำเลยเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญในเรื่องก๊าซปิโตเลียมเหลว จึงชักชวนจำเลยให้เข้าไปร่วมงานกับบริษัท โดยยอมให้จำเลยเป็นผู้ถือหุ้นเต็มมูลค่าจำนวน 240 หุ้น โจทก์ไม่ได้เป็นผู้ออกเงินแทนจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์ 67,500 บาท
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า’…ฟังได้ตามพยานบุคคลและพยานเอกสารของโจทก์ว่าโจทก์ได้ออกเงินทดรองแทนจำเลยไปจริง จำเลยจึงต้องรับผิดชดใช้ให้กับโจทก์ และจำเลยรับว่าโจทก์ได้ทวงถามแล้วจำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดนัด โจทก์คิดดอกเบี้ยได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 204,224 ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยปัญหาตามอุทธรณ์ของจำเลยในข้อที่ว่าโจทก์ออกเงินทดรองค่าหุ้นให้จำเลยเป็นการกู้ยืมเงินกว่าห้าสิบบาทขึ้นไป เมื่อไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเป็นหนังสือโจทก์จึงไม่อาจฟ้องคดีได้เป็นการมิชอบ เพราะปัญหาดังกล่าวนี้จำเลยไม่สามารถยกขึ้นอ้างในศาลชั้นต้นได้นั้น เห็นว่า ตามคำฟ้องโจทก์ปรากฏชัดว่าโจทก์ฟ้องบังคับจำเลยให้ใช้เงินทดรองที่โจทก์ออกแทนจำเลยไป หากจำเลยเห็นว่า ข้ออ้างตามฟ้องโจทก์เป็นเรื่องการฟ้องบังคับตามสัญญากู้ยืมเงินจำเลยก็สามารถยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในคำให้การตั้งแต่ศาลชั้นต้นแต่จำเลยก็หายกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ไม่ จำเลยกลับให้การต่อสู้แต่เพียงว่าโจทก์มิได้ออกเงินทดรองแทนจำเลย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ กรณีมิใช่เป็นเรื่องที่จำเลยไม่สามารถยกปัญหาข้อนี้ขึ้นอ้างในศาลชั้นต้น เนื่องจากพฤติการณ์นอกเหนือไม่อาจบังคับได้ ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายดังกล่าวของจำเลยจึงชอบแล้ว ฎีกาของจำเลยฟังไม่ขึ้น’
พิพากษายืน.