คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2429/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องจำเลยกล่าวหาว่ากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คต่อศาลอาญา คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์เพราะโจทก์เป็นฝ่ายอุทธรณ์ฉะนั้น การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องจำเลยในข้อหาเดียวกันต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการอีก จึงเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173วรรคสอง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ให้โจทก์เป็นเงิน 10,000 บาท เมื่อเช็คถึงกำหนดใช้เงินโจทก์นำไปเข้าบัญชีของโจทก์เพื่อเรียกเก็บเงิน ธนาคารคืนเช็คและแจ้งให้ไปติดต่อกับผู้สั่งจ่าย ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3

ในวันไต่สวนมูลฟ้อง ทนายโจทก์แถลงรับว่าเคยฟ้องจำเลยนี้ต่อศาลอาญาในข้อหาเดียวกันนี้ แต่ศาลอาญาไม่รับฟ้อง เพราะความผิดเกิดในเขตอำนาจศาลจังหวัดสมุทรปราการ โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ขณะนี้คดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์

ศาลชั้นต้นสั่งงดไต่สวนมูลฟ้องและมีคำสั่งไม่ประทับฟ้องไว้พิจารณา

โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ก่อนที่โจทก์จะนำคดีมาฟ้องต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการนั้น โจทก์ได้ฟ้องคดีนี้ต่อศาลอาญามาก่อน คดียังไม่ถึงที่สุดโดยอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ เพราะโจทก์เป็นฝ่ายอุทธรณ์ ฉะนั้น การที่โจทก์นำคดีมาฟ้องต่อศาลจังหวัดสมุทรปราการอีก จึงเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 173 วรรคสอง ประกอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15

พิพากษายืน

Share