คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2405/2529

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ตามคำท้าของจำเลยไม่ปรากฏว่าต้องทำพิธีกรรมอย่าง ครบถ้วนแบบโบราณ โดยมีพระภิกษุหรือพราหมณ์มาทำพิธีต่อ หน้าพระแก้วมรกตด้วย อันเป็นการชุมนุมเทวดา หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกมาเป็นสักขีพยาน เมื่อเจ้าหน้าที่ธุรการของศาลรายงานว่า ตัวโจทก์ได้กล่าวคำสาบานตามที่คู่ความตกลงกันที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามตามคำท้าแล้วดังนี้โจทก์ได้กล่าวคำสาบานตามคำท้าของจำเลย โดยชอบแล้ว จำเลยต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้า

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยนำสืบก่อน เมื่อสืบพยานจำเลยเสร็จแล้ว โจทก์จำเลยท้ากัน โจทก์ได้สาบานตามคำท้า ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินแก่โจทก์ 399,610.41 บาท กับดอกเบี้ยศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีมีปัญหามาสู่ศาลฎีกาเพียงว่าโจทก์ได้กล่าวสาบานกันแล้วตามคำท้าหรือไม่ ในปัญหาดังกล่าวจากรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 7 มีนาคม 2526ฟังได้ว่า จำเลยแถลงว่า “ถ้าหากโจทก์กล้าสาบานว่าโจทก์กับนายกีเซ้งมีหนี้สินต่อกันและนายกีเซ้งได้ใช้เช็คพิพาทตามฟ้องชำระหนี้โจทก์จริง จำเลยยอมแพ้คดี หากไม่กล้าสาบาน โจทก์ยอมแพ้คดี” โจทก์ยอมรับสาบานตามจำเลยแถลงโดยคู่ความทั้งสองฝ่ายขอไปทำพิธีสาบานกันที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามกรุงเทพมหานครและปรากฏข้อเท็จจริงจากรายงานเจ้าหน้าที่ฉบับลงวันที่28 มีนาคม 2526 ว่า นายโสภณเจ้าหน้าที่ธุรการของศาลได้นำตัวโจทก์ ทนายโจทก์ จำเลยทั้งสองและทนายจำเลยไปที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามและนำตัวโจทก์สาบานตัว โดยนายโสภณเป็นผู้กล่าวนำคำสาบานและโจทก์ (นายสวัสดิ) กล่าวคำสาบานที่คู่ความได้ตกลงกัน โจทก์ จำเลยลงลายมือชื่อในรายงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าวตามคำท้าของจำเลยดังปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 7 มีนาคม 2526 ก็ไม่ปรากฏว่าต้องทำพิธีกรรมอย่างครบถ้วนแบบโบราณ โดยมีพระภิกษุหรือพราหมณ์มาทำพิธีต่อหน้าพระแก้วมรกตด้วย อันเป็นการชุมนุมบรรดาเทวดา หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกมาเป็นสักขีพยานดังจำเลยฎีกา เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ตามรายงานเจ้าหน้าที่ว่า ตัวโจทก์ได้กล่าวคำสาบานตามที่คู่ความได้ตกลงกันที่วัดพระศรีรัตนศาสดารามตามคำท้าแล้วเห็นว่าโจทก์ได้กล่าวคำสาบานตามคำท้าของจำเลยโดยชอบแล้ว จำเลยต้องเป็นฝ่ายแพ้คดีตามคำท้าฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น”
พิพากษายืน ให้จำเลยทั้งสองใช้ค่าทนายความในชั้นฎีกาแทนโจทก์ 2,000 บาท

Share