แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
เปนหน้าที่ของโจทก์ต้องพิศูจน์ให้ศาลเห็นว่าจำเลยเอามูลฝิ่นเจือปนกับเนื้อฝิ่นเพื่อจำหน่ายให้แก่ผู้สูบอันผิดกฎหมายเอาหลอดฝิ่นเปล่าแช่น้ำไว้เพื่อให้กุลีกิน ไม่มีผิด
ย่อยาว
ได้ความว่า ต.เจ้าของเหมืองแร่ได้รับอนุญาตจำหน่ายฝิ่น  ต.จึงมอบการขายให้แก่ ก.ๆได้มอบให้จำเลยซึ่งเปนหัวหน้ากุลีจำหน่ายให้แก่กุลีเหมืองแร่อีกทอดหนึ่ง  มีผู้รับสินบนนำจับฝิ่นแลเครื่องอุปกรณ์การสูบฝิ่นได้  โจทก์ขอให้ลงโทษ
ศาลเดิมฟังว่าฝิ่นในอับกระเบื้องที่เจ้าพนักงานจับได้เปนเนื้อฝิ่น ( ไม่ใช่มูลฝิ่น)  แลน้ำแช่หลอดฝิ่นเปล่าจำเลยมีไว้สำหรับต้มเคี่ยวเปนฝิ่น จึงตัดสินลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ฝิ่น พ.ศ.๒๔๖๔ ม.๓๖ ข้อ ๑ ให้ปรับ ๘๐ บาท
ศาลฎีกาแลศาลอุทธรณ์เห็นว่า  ขุนอนุภารฯเจ้าพนักงานโรงยาฝิ่นพะยานโจทก์เบิกความว่า  ถ้าจะให้รู้แน่ว่าเปนมูลฝิ่นที่ควักออกจากหัวกล้อง  หรือเปนมูลยาปนด้วยเนื้อฝิ่นแล้ว  ต้องแยกธาตุดูจึงจะรู้แน่  ส่วนฝิ่นของกลางพะยานตรวจโดยวิธีลนไฟมีกลิ่นเปนฝิ่นผสม  ไม่มีกลิ่นน้ำลายปนอยู่ด้วย  แต่พะยานก็หาได้ทดลองแยกธาตุไม่ จึงฟังไม่ได้แน่ว่ามูลยาฝิ่นของกลางเปนมูลยาที่ปนด้วยเนื้อยาฝิ่นอันผิด
กฎหมาย  ส่วนน้ำแช่หลอดฝิ่นนั้น  ก็ได้ความว่าจำเลยแช่ไว้สำหรับให้พวกกุลีกินในเวลาจำเปนที่จะต้องรับออกไปทำงาน หาได้ความว่าาจำเลยต้มเคี่ยวแต่ประการใดไม่  จึงยังไม่ควรมีความผิด  ให้ยกฟ้องโจทก์เสีย

