คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2391/2541

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามเช็คพิพาทพร้อมดอกเบี้ยที่จำเลยจ่ายคืนทุนที่เข้าหุ้นส่วนกันให้โจทก์ จำเลยให้การว่า โจทก์จำเลยตกลงกันว่าระหว่างที่ยังไม่ถึงกำหนดใช้เงินตามเช็ค โจทก์จะนำสมุดบัญชีมาตรวจสอบร่วมกันก่อน โดยไม่มีเจตนาจะให้ผูกพันเป็นการชำระหนี้ และโจทก์จะไม่นำเช็คไปเบิกเงินจากธนาคารจนกว่าจะได้ตรวจสอบบัญชีให้ถูกต้อง และฟ้องแย้งว่าโจทก์ได้เบียดบังยักยอกสินค้าของร้าน ซึ่งจำเลยมีส่วนร่วมอยู่ครึ่งหนึ่งเป็นเงิน 199,298 บาทไป ขอให้บังคับให้โจทก์ชำระเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย และเรียกค่าเสียหายที่โจทก์ทำลายสมุดบัญชีร้านค้าของจำเลย เมื่อข้ออ้างที่จำเลยอาศัยเป็นหลักแห่งข้อหาในฟ้องแย้งเป็นเรื่องกล่าวหาว่าโจทก์กระทำละเมิด ไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม จึงชอบที่ศาลจะมีคำสั่งไม่รับฟ้องแย้ง
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระเงินตามเช็ค แต่จำเลยยังให้การต่อสู้ว่า จำเลยออกเช็คให้โจทก์เป็นประกันและตกลงกันด้วยว่าไม่ให้โจทก์นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินจนกว่าจะได้ตรวจสอบบัญชีให้ถูกต้องก่อน หากฟังได้ตามที่จำเลยให้การ โจทก์ก็ไม่มีสิทธินำเช็คไปเรียกเก็บเงิน ศาลชั้นต้นจึงต้องสืบพยานโจทก์จำเลยเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงดังกล่าวเสียก่อน การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์จำเลยแล้วพิพากษาให้จำเลยรับผิดชดใช้เงินตามเช็คพร้อมดอกเบี้ยและศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จึงไม่ชอบ

Share