คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2383/2526

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์มีความประสงค์จะจัดตั้งบริษัทเพื่อประกอบกิจการซื้อขายสินค้าล่วงหน้าและการเล่นแชร์ เป็นสิทธิและเสรีภาพที่จะกระทำได้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ การจำกัดสิทธิเช่นว่านี้จะกระทำได้ต่อเมื่อมีกฎหมายบัญญัติไว้โดยชัดแจ้ง ฉะนั้นเมื่อโจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทโดยมีวัตถุประสงค์ที่ไม่ต้องห้ามหรือต้องควบคุมตามกฎหมาย จึงเป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องพิจารณาว่าคำขอของโจทก์ครบถ้วนถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1019 บัญญัติไว้หรือไม่เท่านั้น จำเลยจะสั่งให้รอการรับจดทะเบียนไว้ก่อนตามมติของคณะรัฐมนตรีเพื่อที่จะแก้ไขกฎหมายให้ควบคุมถึงการประกอบอาชีพของโจทก์ดังกล่าวหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ทั้งเจ็ดคนได้ร่วมกันเข้าชื่อเป็นผู้ริเริ่มก่อการตั้งบริษัทจำกัดชื่อ บริษัทการลงทุนและคอมโมดิตี้ส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการค้าหลายประการที่ชอบด้วยกฎหมาย นายทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครได้รับจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิไว้แล้ว ต่อมาโจทก์ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนตั้งบริษัทต่อนายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานคร แต่จำเลยบอกปัดไม่รับจดทะเบียนให้ จึงขอให้บังคับให้จำเลยรับจดทะเบียน
จำเลยให้การว่า บริษัทโจทก์ที่ขอจดทะเบียนมีวัตถุประสงค์ประกอบกิจการซื้อขายสินค้าล่วงหน้าและการเล่นแชร์อันอาจก่อให้เกิดผลเสียหายแก่เศรษฐกิจของประเทศและประชาชนเป็นส่วนรวม คณะรัฐมนตรีลงมติเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่ให้ธุรกิจดังกล่าวจะต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ฯ ก่อน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์มีนโยบายให้รอการจดทะเบียนไว้ก่อนจนกว่าจะได้มีกฎหมายควบคุมเกี่ยวกับกิจการนี้นายทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทกรุงเทพมหานครจึงได้รอการจดทะเบียนบริษัทโจทก์ไว้ ไม่ได้บอกปัดไม่รับจดทะเบียน ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้จำเลยรับจดทะเบียนตั้งบริษัทการลงทุนและคอมโมดิตี้ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตามที่โจทก์ยื่นคำขอไว้
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทการลงทุนและคอมโมดิตี้ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งมีวัตถุประสงค์ซื้อขายสินค้าล่วงหน้าและการเล่นแชร์ต่อจำเลย แต่จำเลยยังไม่ยอมจดทะเบียนให้โดยอ้างว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สั่งให้รอการจดทะเบียนไว้ก่อนจนกว่าจะมีกฎหมายควบคุมการประกอบธุรกิจเช่นว่านี้และวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า การที่โจทก์มีความประสงค์จะจัดตั้งบริษัทเพื่อประกอบกิจการซื้อขายสินค้าล่วงหน้าและการเล่นแชร์ เป็นการประกอบอาชีพหรือการจัดการทรัพย์สินของตนอย่างหนึ่ง ซึ่งทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพที่จะกระทำได้ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ การจำกัดสิทธิเช่นว่านี้จะกระทำได้ต่อเมื่อกฎหมายบัญญัติไว้โดยชัดแจ้ง ฉะนั้นเมื่อโจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท โดยมีวัตถุประสงค์ที่ไม่ต้องห้ามหรือต้องควบคุมตามกฎหมาย จึงเป็นหน้าที่ของจำเลยที่จะต้องพิจารณาว่าคำขอของโจทก์ครบถ้วนถูกต้องตามหลักเกณฑ์ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา ๑๐๑๙ บัญญัติไว้หรือไม่เท่านั้น การที่จำเลยสั่งให้รอการรับจดทะเบียนไว้ก่อนตามมติคณะรัฐมนตรีเพื่อที่จะแก้ไขกฎหมายให้ควบคุมถึงการประกอบอาชีพของโจทก์ดังกล่าวข้างต้น จึงเป็นการตัดสิทธิของโจทก์ที่จะพึงมีพึงได้ โดยไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้กระทำได้ ฎีกาของจำเลยในเรื่องนี้ฟังไม่ขึ้น แต่อย่างไรก็ดี การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้จำเลยรับจดทะเบียนตั้งบริษัทการลงทุนและคอมโมดิตี้ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตามที่โจทก์ยื่นคำขอไว้ทันทียังเป็นการไม่ถูกต้อง เพราะอาจมีเรื่องอื่น ๆ ที่จำเลยจะต้องพิจารณาต่อไปอีกตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๐๑๙ บัญญัติไว้
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยพิจารณารับจดทะเบียนตั้งบริษัทการลงทุนและคอมโมดิตี้ส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่โจทก์ยื่นคำขอไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๐๑๙ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นฎีกาให้เป็นพับ

Share