คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2359/2525

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 รับกระบือไว้จากคนร้ายโดยรู้ว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมาแล้วนำไปขายและรับชำระราคา ส่วนจำเลยที่ 2 ซึ่งช่วยจูงกระบือร่วมเดินทางไปกับจำเลยที่ 1 ตามคำขอร้อง ถือไม่ได้ว่าร่วมครอบครองช่วยพาเอาไปเสีย ช่วยจำหน่ายกระบือ การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงไม่เป็นความผิดฐานรับของโจร

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 357 จำคุกคนละ 3 ปี ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันคืนหรือใช้ราคากระบืออีก 1 ตัว ราคา 4,000 บาทแก่ผู้เสียหาย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 และฝ่ายจำเลยไม่ต้องชดใช้ราคากระบือ โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ทางพิจารณาข้อเท็จจริงได้ความในเบื้องต้นว่าเมื่อวันที่ 26 มกราคม 2524 เวลากลางวัน มีคนร้ายลักเอากระบือ 2 ตัวของนายถาวร ผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลรักษาของนายบุญมาไป จำเลยที่ 1 รับเอากระบือดังกล่าวไว้จากคนร้าย โดยรู้อยู่ว่าเป็นทรัพย์ที่ถูกลักมาวันที่ 31 มกราคม 2524 จำเลยที่ 1 นำกระบือดังกล่าวไปขายให้แก่นายเซียนคำหวาย โดยจำเลยที่ 2 ร่วมเดินทางไปกับจำเลยที่ 1 ด้วย นายเซียนฆ่ากระบือที่ซื้อไว้ 1 ตัวแล้วแบ่งขาย วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2524 ผู้เสียหายตามไปพบกระบือที่เหลืออีก 1 ตัวที่บ้านนายเซียนและวันรุ่งขึ้นผู้เสียหายนำเจ้าพนักงานตำรวจไปยึดกระบือที่เหลือดังกล่าวไว้เป็นของกลาง วันที่ 8 มีนาคม 2524 เจ้าพนักงานตำรวจจับจำเลยที่ 2 ได้ กระบือของผู้เสียหายที่ถูกฆ่าไปนายเซียนได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายแล้วเป็นเงิน 4,500 บาท

พิเคราะห์แล้ว ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยมีเพียงข้อเดียวว่า จำเลยที่ 2 ได้กระทำความผิดฐานรับของโจรร่วมกับจำเลยที่ 1 ตามฎีกาโจทก์หรือไม่ นายเซียนพยานโจทก์เบิกความว่า เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2524 เวลา 9 นาฬิกาเศษ จำเลยทั้งสองจูงกระบือตัวเมีย 2 ตัวแม่ลูกไปที่บ้านพยาน พยานถามว่ากระบือของใคร จำเลยที่ 1บอกว่าเป็นกระบือของตน พยานขอซื้อกระบือทั้งสองตัว จำเลยที่ 1 บอกขายในราคา 6,000 บาท เมื่อต่อราคากันแล้วตกลงขายในราคา 5,000 บาท พยานชำระราคากระบือให้แก่จำเลยที่ 1 และรับเอากระบือไว้ ส่วนจำเลยที่ 2 เบิกความว่าเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2524 เวลา 18 นาฬิกา จำเลยที่ 1 ไปหาจำเลยที่ 2 ที่บ้านและชวนไปบ้านหนองแสงในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นเพื่อเอากระบือ 2 ตัวไปให้บิดาจำเลยที่ 1 เลี้ยง รุ่งขึ้นจำเลยทั้งสองออกเดินทางมาตามนัด ระหว่างทางแวะรับประทานอาหารที่บ้านนายเซียน นายเซียนขอซื้อกระบือทั้งสองตัวจำเลยที่ 1 ตกลงขายในราคา 5,000 บาท จากนั้นจำเลยทั้งสองก็พากันกลับบ้าน ศาลฎีกาเห็นว่าประจักษ์พยานโจทก์ที่เบิกความเกี่ยวกับการกระทำของจำเลยที่ 2 มีนายเซียนเพียงปากเดียว ทั้งนายเซียนเบิกความว่าในการตกลงซื้อขายกระบือจำเลยที่ 1 บอกว่าเป็นกระบือของจำเลยที่ 1 จำเลยที่ 1 เป็นผู้บอกราคาขายและเป็นผู้รับชำระราคากระบือ ประกอบกับจำเลยที่ 2 ให้การตั้งแต่ชั้นสอบสวนตลอดมาว่า ช่วยนำกระบือไปตามคำขอร้องของจำเลยที่ 1 เท่านั้น เพียงแต่จำเลยที่ 2 ช่วยจูงกระบือร่วมเดินทางไปกับจำเลยที่ 1 แล้วจำเลยที่ 1 ขายกระบือนั้นให้แก่นายเซียน ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 ครอบครอง ช่วยพาเอาไปเสีย ช่วยจำหน่ายซึ่งกระบือของผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายลักไป การกระทำของจำเลยที่ 2 จึงไม่เป็นความผิดฐานรับของโจร”

พิพากษายืน

Share