แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์รับในเรื่องหน้าที่นำสืบว่า โจทก์จะนำสืบก่อนครั้นถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ ๆไม่มาศาลตามเวลานัด คงมาแต่ฝ่ายจำเลย จำเลยได้แถลงต่อศาลว่า เมื่อโจทก์ไม่มาศาลขอให้ยกฟ้องชองโจทก์เสีย ดังนี้ ย่อมมีความหมายในทางที่จำเลยประสงค์ให้ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตามความใน ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 201 วรรค 2 เพราะเห็นได้ว่าการที่จำเลยขอให้ศาลพิพากษาคดีนั้น ศาลจำต้องดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างใดอย่างหนึ่ง ฉะนั้น ศาลจะไปสั่งจำหน่ายคดีเสียไม่ชอบ
ย่อยาว
โจทก์ฟ้อง เรียกค่าสินไหมทดแทนจากจำเลยตามสัญญสจำเลยต่อสู้ว่า โจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาเอง
ในวันนัดชี้สองสสถาน โจทก์รับนำสืบพยานก่อน แต่เมื่อถึงวันนัดสืบพยานโจทก์ โจทก์ไม่มาศาลตามเวลานัด คงมาแต่ฝ่ายจำเลยๆได้แถลงต่อศาลว่า เมื่อโจทก์ไม่มาศาลขอให้ยกฟ้องของโจทก์เสีย
ศาลชั้นต้นทำคำสั่งว่า โจทก์ได้ทราบวันนัดแล้วให้จำหน่ายคดี
จำเลยอุทธรณ์คัดค้านว่า การที่จำเลยแถลงขอให้ศาลยกฟ้องโจทก์นั้น เป็นการแสดงว่าจำเลยต้องกสนให้ศาลชั้นต้นดำเนินการกระบวนพิจารณาไปตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๒๐๑ วรรค ๒
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยมิได้แถลงว่า ขอให้ศาลสั่งพิจารณาโดยโจทก์ขาดนัด และขอให้ยกฟ้อง ศาลแพ่งสั่งจำหน่ายคดีชอบแล้ว พิพากษายืน
จำเลยฎีกาต่อมา
ศาลฎีกา เห็นว่า คดีนี้โจทก์รับเรื่องหน้าที่นำสืบว่า โจทก์จำนำสืบก่อน และวันที่โจทก์ไม่มาศาลเป็นวันนัดสืบพยานโจทก์ การที่จำเลยแถลงต่อศาลว่า เมื่อโจทก์ไม่มาศาล ขอให้ยกฟ้องโจทก์ ย่อมมีความหมายในทางที่จำเลยประสงค์ให้ศาลดำเนินกระบวนการพิจารณาต่อไปตามความหมายของ ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๒๐๑ วรรค ๒ เพราะเห็นได้ว่า การที่จำเลยขอให้ศาล
พิพากษาคดีนั้นศาลชั้นต้นจำหน่ายคดีเสีย จึงไม่ชอบ
พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้ง ๒ ให้ศาลชั้นต้นดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไปตาม ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา ๒๐๑ วรรค ๒