คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2284/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยถูกผู้ตายกับพวกอีก 1 คนรุมชกต่อยที่บนสโมสร เมื่อจำเลยวิ่งหนีลงมาผู้ตายกับพวกยังวิ่งไล่ติดตามไปรุมชกต่อยจำเลยอีก จำเลยจวนตัวชักมีดปลายแหลมออกมาผู้ตายกับพวกก็ยังไม่หยุดยั้ง กลับเข้ารุมชกต่อยจำเลยเป็นชุลมุน การที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงทำร้ายต่อสู้ผู้ตายกับพวก เพื่อป้องกันตนไปในขณะนั้น และมิได้แทงทำร้ายผู้ตายกับพวกต่อไปอีก เมื่อผู้ตายกับพวกหยุดทำร้ายจำเลย ดังนี้ แม้ผู้ตายกับพวกจะมีบาดแผลคนละหลายแห่ง และผู้ตายถึงแก่ความตายก็ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการป้องกันพอสมควรแก่เหตุ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๑๑ เวลากลางคืนหลังเที่ยง จำเลยใช้มีดปลายแหลมมีสปริงฝ่ายหนึ่ง นายมานพ บุตรอากาศ และนายเฉลิมชัย รักเลิศวงศ์ ร่วมกันอีกฝ่ายหนึ่ง ต่างทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน โดยจำเลยแทงนายมานพและนายเฉลิมด้วยเจตนาฆ่า ถูกตามร่างกายนายมานพและนายเฉลิมชัยหลายแผล จนนายเฉลิมชัยถึงแก่ความตาย การกระทำต่อนายมานพไม่บรรลุผล เพราะนายมานพไม่ตาย เหตุเกิดที่ตำบลหนองจะบก อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๒๙๕, ๘๐ สั่งริบมีดของกลางที่ใช้กระทำผิด
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าจำเลยไม่มีเจตนาฆ่า และกระทำป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ พิพากษาว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๐, ๒๙๕, ๖๙ ลงโทษตามมาตรา ๒๙๐ ซึ่งเป็นบทหนักตามมาตรา ๙๐ จำคุก ๒ ปี มีดของกลางริบ
จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยกระทำการเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุไม่มีความผิด พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกาว่า เป็นการป้องกันเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๖๙ ขอให้ลงโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาวินิจฉัย
คดีคงมีปัญหาที่ต้องพิจารณาในชั้นฎีกาเพียงว่า การกระทำเพื่อป้องกันของจำเลยพอสมควรแก่เหตุหรือเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันหรือไม่
ศาลฎีกาได้พิเคราะห์แล้ว เห็นว่า ก่อนที่จำเลยจะแทงทำร้ายผู้ตายและนายมานพ จำเลยได้ถูกผู้ตายและนายมานพรุมชกต่อยที่บนสโมสรครั้นเมื่อจำเลยวิ่งหนีลงมา ผู้ตายกับนายมานพยังวิ่งไล่ติดตามไปรุมชกต่อยจำเลยเอาอีก จำเลยจวนตัวจึงชักมีดปลายแหลมออกมาผู้ตายกับนายมานพก็ยังไม่หยุดยั้ง กลับเข้ารุมชกต่อยจำเลยเอาอีก จึงเกิดชุลมุนกันขึ้นทั้งสองฝ่าย ขณะนั้นเป็นเวลากลางคืนประมาณ ๒๐.๐๐ นาฬิกา แม้ผู้ตายกับนายมานพจะไม่มีอาวุธอะไร แต่ผู้ตายกับนายมานพมีรูปร่างใหญ่กว่าจำเลย ผู้ตายกับนายมานพอาจช่วยกันใช้กำลังรุมทำร้ายจำเลยจนถึงบาดเจ็บหรืออาจถึงแก่ความตายก็ได้ การที่จำเลยใช้มีดสปริงปลายแหลมแทงทำร้ายผู้ตายกับนายมานพไปในขณะที่จำเลยกำลังต่อสู้เพื่อให้พ้นจากการที่ผู้ตายกับนายมานพรุมชกต่อยทำร้าย จำเลยอยู่เป็นชุลมุนเช่นนี้ จำเลยคงไม่มีโอกาสเลือกหมายแทงผู้ตายและนายมานพได้อย่างใด จำเลยคงแทงไปเพื่อให้ตนพ้นจากการถูกรุมทำร้ายอยู่ในขณะนั้นเท่านั้น ทั้งไม่ปรากฏว่าเมื่อผู้ตายกับนายมานพหยุดทำร้ายจำเลยแล้ว จำเลยยังได้ใช้มีดแทงทำร้ายผู้ตายกับนายมานพอยู่ต่อไปอีก ดังนี้แม้ผู้ตายกับนายมานพจะมีบาดแผลถูกมีดคนละหลายแผลและผู้ตายถึงแก่ความตาย ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยกระทำไปยังไม่เกินสมควรแก่เหตุหรือกระทำไปเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกันดังที่โจทก์ฎีกามา ศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าจำเลยกระทำการเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ ไม่มีความผิดชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

Share