แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ข้อบังคับของบริษัทได้กำหนดไว้โดยชัดแจ้งถึงการที่ให้แจ้งการเรียกประชุมให้ผู้ถือหุ้นทุกคนทราบล่วงหน้ายี่สิบเอ็ดวันก่อนที่จะมีการประชุมใหญ่ทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นการประชุมสามัญหรือวิสามัญ โดยกำหนดเวลาดังกล่าวอาจได้รับยกเว้นหรือย่นเวลาให้น้อยกว่ายี่สิบเอ็ดวันได้เฉพาะแต่ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นได้อยู่รับรู้การเรียกประชุมโดยเข้าร่วม ประชุมด้วยตัวเองหรือโดยผู้รับฉันทะ แม้การประชุมใหญ่นั้น จะเป็นการเรียกนัดใหม่อีกคราวหนึ่ง ก็อยู่ในบังคับที่จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับดังกล่าว กรณีเช่นนี้ต้องเป็นไป ตามข้อบังคับของบริษัทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1177 จะนำมาตรา 1175 และมาตรา 1179 มาใช้บังคับมิ ได้
เมื่อการประชุมใหญ่วิสามัญของผู้ถือหุ้นครั้งแรกตามที่นัดไว้กระทำไม่ได้เพราะผู้ถือหุ้นเข้าประชุมไม่ครบองค์ประชุมและได้มีการเรียกนัดประชุมใหม่โดยผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นได้รับหนังสือแจ้งการเรียกนัดประชุมใหม่ก่อนที่จะมีการประชุมเพียงแปดวัน จึงเป็นการไม่ชอบด้วยข้อบังคับของ บริษัทการประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งใหม่จึงเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับของบริษัทศาลชอบที่จะเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่อันผิดระเบียบนั้นเสียได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1195
ย่อยาว
ผู้ร้องยื่นคำร้องว่า ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทสยามบริการการบินจำกัด เมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ บริษัทได้มีการประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นหนังสือนัดเรียกประชุมถึงผู้ร้องเมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ ล่วงหน้าเพียงแปดวันเป็นการไม่ชอบตามข้อบังคับของบริษัทข้อ ๒๘ ที่กำหนดไว้ว่า ให้แจ้งการเรียกประชุมล่วงหน้ายี่สิบเอ็ดวัน ขอให้มีคำสั่งให้การประชุมและการออกเสียงลงมติดังกล่าวเป็นโมฆะ ให้เพิกถอนการประชุมและมติที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นดังกล่าวเสีย
ผู้คัดค้านทั้งสองยื่นคำคัดค้านร่วมกันว่า การมีหนังสือนัดเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ และผู้ร้องได้รับหนังสือดังกล่าวล่วงหน้าเพียงแปดวัน เป็นการปฏิบัติตามข้อบังคับของบริษัทข้อ ๒๙(๒) และ (๓) และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๑๗๙ แล้ว ขอให้ยกคำร้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้การประชุมและมติของที่ประชุมเป็นโมฆะให้เพิกถอนการประชุมและมติของการประชุมผู้ถือหุ้นดังกล่าว
ผู้คัดค้านทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
ผู้คัดค้านทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ได้มีการนัดเรียกประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ ผู้ร้องได้รับหนังสือนัดเรียกประชุมดังกล่าวล่วงหน้ายี่สิบเอ็ดวันถูกต้องตามข้อบังคับของบริษัทข้อ ๒๘ ถึงกำหนดวันนัดประชุมผู้ถือหุ้นกลุ่มของผู้ร้องไม่ได้เข้าประชุม การประชุมดำเนินต่อไปไม่ได้ ในวันนั้นเองกรรมการบริษัทได้มีหนังสือเรียกนัดประชุมใหญ่อีกคราวหนึ่งในวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์๒๕๒๕ ผู้ร้องได้รับหนังสือวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ อันเป็นเวลาก่อนที่จะมีการประชุมเพียงแปดวัน ผู้ร้องและผู้ถือหุ้นกลุ่มของผู้ร้องไม่ได้เข้าประชุม แต่การประชุมใหญ่ดังกล่าวนั้นได้ประชุมกันต่อไปและมีประชุมตามเอกสารหมาย ร.๕ ข้อบังคับของบริษัทข้อ ๒๘ มีข้อความว่า “ให้มีการแจ้งการเรียกประชุมล่วงหน้ายี่สิบเอ็ดวันก่อนที่จะมีการประชุมใหญ่ทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นการประชุมสามัญหรือวิสามัญก็ตาม ฯลฯกำหนดการแจ้งล่วงหน้าสำหรับการประชุมทั่วไปไม่ว่าจะเป็นการประชุมสามัญหรือวิสามัญแต่ละครั้งนั้นอาจยกเว้นหรือย่อเวลาให้สั้นลงได้ถ้าผู้ถือหุ้นทุกคนได้เข้าร่วมการประชุมด้วยตนเองหรือโดยผู้รับฉันทะ” และข้อ ๒๙ มีข้อความว่า”(๑) ในการประชุมใหญ่ ถ้าไม่มีผู้ถือหุ้นเข้าประชุมร่วมกันแทนหุ้นได้ถึงจำนวนหนึ่งในสี่แห่งทุนของบริษัทและในจำนวนผู้ถือหุ้นในสี่แห่งทุนของบริษัทดังกล่าวข้างต้นนั้นไม่มีผู้ถือหุ้นในแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเอ. กลุ่มบี. กลุ่มซี.)อย่างน้อยกลุ่มละหนึ่งคนเข้าประชุมด้วยแล้วที่ประชุมนั้นจะปรึกษากิจการอันใดไม่ได้
(๒) การประชุมใหญ่เรียกนัดเวลาใด เมื่อล่วงเวลานัดนั้นไปแล้วถึงหนึ่งชั่วโมง จำนวนหุ้นซึ่งมาเข้าประชุมไม่ครบถ้วนเป็นองค์ประชุมดังได้กล่าวไว้ใน (๑) ถ้าการประชุมใหญ่นั้นได้เรียกนัดโดยผู้ถือหุ้นร้องขอให้เลิกประชุม
(๓) ถ้าการประชุมใหญ่นั้นมิใช่เรียกนัดโดยผู้ถือหุ้น ให้เรียกนัดใหม่อีกคราวหนึ่งภายในสี่สิบวัน (มิใช่สิบสี่วันดังฎีกาของผู้คัดค้านทั้งสอง) และการประชุมใหญ่ครั้งหลังนี้ไม่บังคับว่าจะต้องครบองค์ประชุม”
ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า ข้อบังคับของบริษัทข้อ ๒๘ กำหนดไว้โดยชัดแจ้งถึงการที่ให้มีการแจ้งการเรียกประชุมให้ผู้ถือหุ้นทุกคนทราบล่วงหน้ายี่สิบเอ็ดวันก่อนที่จะมีการประชุมใหญ่ทุกครั้งไม่ว่าจะเป็นการประชุมสามัญหรือวิสามัญโดยกำหนดเวลาแจ้งล่วงหน้าดังกล่าวอาจได้รับยกเว้นหรือย่อเวลาให้น้อยกว่ายี่สิบเอ็ดวันได้ก็เฉพาะในกรณีที่ผู้ถือหุ้นได้อยู่รับรู้การเรียกประชุมโดยเข้าร่วมประชุมด้วยตนเองหรือโดยผู้รับฉันทะ แม้การประชุมใหญ่นั้นจะเป็นการเรียกนัดใหม่อีกคราวหนึ่งตามข้อบังคับของบริษัทข้อ ๒๙(๓) ก็อยู่ในบังคับที่จะต้องปฏิบัติตามข้อบังคับของบริษัทข้อ ๒๘ กล่าวคือ ต้องแจ้งการเรียกนัดประชุมใหม่ให้ผู้ถือหุ้นที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมครั้งแรกทราบล่วงหน้ายี่สิบเอ็ดวันก่อนวันนัดประชุม และการที่ข้อบังคับของบริษัทข้อ ๒๙(๓) ระบุให้เรียกนัดประชุมใหญ่อีกคราวหนึ่งภายในสี่สิบวัน มิใช่ภายในสิบสี่วันดังที่บัญญัติไว้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๑๗๙ วรรคสองก็เพื่อจะได้มีเวลาเพียงพอในอันที่จะปฏิบัติตามข้อบังคับของบริษัทข้อ ๒๘เมื่อข้อบังคับของบริษัทได้กำหนดไว้เช่นนี้กรณีก็ต้องเป็นไปตามนั้น จะนำบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๑๗๕ และมาตรา ๑๑๗๙ มาใช้บังคับหาได้ไม่ ทั้งนี้เป็นไปตามมาตรา ๑๑๗๗ ดังนั้นการประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทผู้คัดค้านที่ ๑ ที่ได้ประชุมกันเมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับของบริษัท ศาลชอบที่จะเพิกถอนมติของที่ประชุมใหญ่อันผิดระเบียบนั้นเสียได้ตามมาตรา ๑๑๙๕
พิพากษายืน