คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2275/2515

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่จำเลยถูกผู้ตายกับพวกรุมเตะ ต่อยและตีด้วยขวดเบียร์ เพราะพวกผู้ตายเข้าใจผิดคิดว่าจำเลยอยู่ในกลุ่มพวกที่ทำร้ายพวกของผู้ตายก่อนเกิดเหตุเล็กน้อย ดังนี้ เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง จำเลยใช้ปืนยิงไปถูกผู้ตายถึงแก่ความตาย เพื่อป้องกันตนให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย เป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ จึงเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยย่อมไม่มีความผิด

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบังอาจใช้ปืนพกขนาด .38 ของจำเลย ซึ่งมีไว้โดยชอบ ยิงพลทหารวิชิตโดยเจตนาฆ่า กระสุนปืนที่จำเลยยิงถูกพลทหารวิชิตที่หน้าอกถึงแก่ความตายในคืนนั้นเองจำเลยเข้ามอบตัวพร้อมด้วยปืนพกขนาด .38 ปลอกกระสุนปืน 2 ปลอก และได้หัวกระสุนจากศพผู้ตาย1 ลูกเป็นของกลาง ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288ริบของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ผู้ตายถึงแก่ความตายเพราะกระสุนปืนที่จำเลยยิง และจำเลยสมัครใจวิวาทกับพวกผู้ตาย จำเลยจะอ้างว่ากระทำเพื่อป้องกันตัวหาได้ไม่ พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 จำคุก 15 ปี ของกลางริบ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยถูกผู้ตายกับพวกทำร้ายและถูกรุมชกต่อยและถูกตีด้วยขวดเบียร์ที่หน้าร้านที่เกิดเหตุ เพราะพวกผู้ตายเข้าใจผิดคิดว่าจำเลยอยู่ในกลุ่มที่ทำร้ายนายพิมล (พวกของผู้ตาย) ในตอนแรก การถูกทำร้ายโดยคนหลายคนรุมตี เตะ ต่อย เช่นนั้นเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง การกระทำของจำเลยที่ยิงไปนั้น เพื่อป้องกันตนให้พ้นภยันตรายซึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฎหมาย และเป็นการกระทำพอสมควรแก่เหตุ จึงเป็นการป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย จำเลยย่อมไม่มีความผิด และข้อเท็จจริงมิได้แสดงว่าจำเลยสมัครใจวิวาท

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง ของกลางคืนจำเลย

Share