คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2263/2524

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ป. ขายฝากบ้านพิพาทซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินของโจทก์ไว้กับจำเลย และมิได้ไถ่ตามกำหนด ป. ตาย ช. ภริยา ป.ซื้อบ้านคืน การซื้อขายนี้หาได้มีเจตนาที่จะให้ผู้ซื้อรื้อถอนไปไม่ เมื่อการซื้อขายมิได้ทำเป็นหนังสือและได้จดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงไม่สมบูรณ์ตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 456 กรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาท ยังเป็นของจำเลย โจทก์ฟ้องจำเลยให้รื้อถอนไปได้

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนบ้านออกจากที่ดินโฉนดเลขที่ 2534 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าบ้านพิพาทปลูกอยู่บนที่ดินของโจทก์ ต่อมานายประจักษ์ ทรงสุนทร ขายฝากบ้านพิพาทไว้กับจำเลย และมิได้ไถ่ตามกำหนดเวลา ภายหลังนายประจักษ์ ทรงสุนทร ถึงแก่กรรม นางชุบ ทรงสุนทร ได้ซื้อบ้านพิพาทคืน แต่ยังมิได้จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์กันปัญหามีว่าการซื้อขายบ้านพิพาทระหว่างจำเลยกับนางชุบ ทรงสุนทร สมบูรณ์หรือไม่ เห็นว่าบ้านพิพาทเป็นอสังหาริมทรัพย์ การซื้อขายบ้านพิพาทระหว่างจำเลยกับนางชุบ ทรงสุนทร หาได้มีเจตนาที่จะให้ผู้ซื้อรื้อถอนไปไม่ เมื่อการซื้อขายบ้านพิพาทดังกล่าวมิได้ทำเป็นหนังสือและได้จดทะเบียนการได้มากับพนักงานเจ้าหน้าที่ การซื้อขายดังกล่าวจึงไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 456 กรรมสิทธิ์ในบ้านพิพาทจึงยังเป็นของจำเลย จำเลยต้องรื้อถอนบ้านพิพาทไป”

พิพากษายืน

Share