แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลตัดสินลงโทษและเพิ่มโทษจำเลยในคดีหลัง จนคดีถึงที่สุดไปแล้วก่อน พ.ร.บ. ล้างมลทินฯ พ.ศ. 2499 ใช้บังคับ แม้ความผิดซึ่งจำเลยต้องโทษในคดีก่อนที่เป็นเหตุถูกเพิ่มโทษในคดีหลังจะเกิดขึ้นก่อนวันที่ 8 พ.ย. 2499 และจำเลยได้พ้นโทษในคดีก่อนไปแล้วก็ตามก็ไม่เป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงแก้ไขการเพิ่มโทษในคดีหลังได้
เมื่อศาลอ่านคำพิพากษาแล้ว ศาลนั้นจะแก้ไขคำพิพากษาเกี่ยวกับการเพิ่มโทษหาได้ไม่ เพราะไม่ใช่แก้ไขถ้อยคำที่เขียนหรือพิมพ์ผิดพลาด
ย่อยาว
ศาลอาญาพิพากษาว่าจำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.๓๔๐ วรรค ๒ วางโทษจำคุก ๑๕ ปีก่อนคดีนี้จำเลยที่ ๑ เคยต้องโทษจำคุก ๑๕ ปี ก่อนคดีนี้จำเลยที่ ๑ เคยต้องโทษจำคุกมาแล้ว พ้นโทษยังไม่เกิน ๕ ปี เพิ่มโทษจำเลยที่ ๑ ตามมาตรา ๔๒ อีก ๑ ใน ๓ เป็น ๒๐ ปีจำเลยรับลดกึ่งตาม ม,๗๔ คงจำคุกจำเลยที่ ๑ ไว้ ๑๐ ปี ศาลอ่านคำพิพากษานี้ให้จำเลยฟังเมื่อวันที่ ๑๘ ม.ค. ๒๕๐๐
วันที่ ๑๐ มิ.ย. ๒๕๐๑ จำเลยที่ ๑ ยื่นคำร้องว่าความผิดของจำเลยที่เคยต้องโทษจำคุก ๔ ปี ในครั้งก่อน ซึ่งศาลถือเอามาเป็นเหตุเพิ่มโทษจำเลยในคดีนี้นั้นเกิดขึ้นก่อนวันที่ ๘ พ.ย. ๒๔๘๘ และจำเลยได้พ้นโทษไปแล้ว ศาลจะถือมาเพิ่มโทษจำเลยในคดีนี้ไม่ได้ เพราะถูกลบล้างมลทินไปแล้วตาม พ.ร.บ. ล้างมลทินโทษเนื่องในโอกาศครบ ๒๕ พุทธศตวรรษ ม.๑ ขอให้ศาลสั่งแก้หมายจำคุกเสียใหม่.
ศาลอาญาสั่งว่าเรื่องนี้ศาลตัดสินก่อน พ.ร.บ.ล้างมลทินฯ ใช้บังคับ และคดีก็ถึงที่สุดแล้ว ไม่มีทางที่ศาลจะสั่งเปลี่ยนแปลงแก้ไขคำพิพากษาหรือหมายที่ออกตามคำพิพากษาได้ ให้ยกคำร้อง
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่าตามป.วิ.อ.มาตรา ๑๙๐ ห้ามมิให้แก้ไขคำพิพากษาหรือคำสั่งซึ่งอ่านแล้ว นอกจากแก้ไขถ้อยคำที่เขียนหรือพิมพ์ผิดพลาด และคดีของจำเลยนี้ได้ถึงที่สุดเด็ดขาดไปแล้วก่อน พ.ร.บ. ล้างมลทินในโอกาศครบ ๒๕ พุทธศตวรรษพ.ศ. ๒๔๙๙ ใช้บังคับ เมื่อจำเลยต้องคำพิพากษาในคดีนี้จำเลยเป็นผู้ไม่เช็คหลายอยู่ จึงพิพากษายืน.